หากคุณเคยได้ยินคำว่า “แก้มลิง” หากเคยได้ฟังความสำคัญของการจัดการน้ำ และหากต้องการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงเรื่องราวเหล่านี้ ชุมชนรอบโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ คือสถานที่ที่ไม่เพียงทำให้เกิดความกระจ่าง แต่ยังช่วยให้สิ้นกังขาต่อเรื่องราวของความรัก และความรู้
หนองใหญ่ คือพื้นที่ชุ่มน้ำเชิงเขา ใกล้ชายฝั่งทะเล ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองชุมพร ชื่อหนองใหญ่เกิดจากความเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำหลากตามธรรมชาติ ในยามที่น้ำบ่าลงมาจากเทือกเขาเมื่อเกิดพายุฝนในบางฤดูก็จะไหลเข้าท่วมตัวเมืองชุมพร การรับมือตามแนวพระราชดำริ ก็คือการสร้างบึงรับน้ำขนาดใหญ่ และเส้นทางระบายน้ำลงสู่ทะเลที่สั้นที่สุด จนเกิดเป็นโครงการคลองระบายน้ำพระราชดำริหัววัง-พนังตัก
แต่โครงการนี้ก็ยืดเยื้อเพราะติดขัดปัญหาด้านงบประมาณของราชการ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2540 ได้ทรงเร่งรัดการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่เพราะคาดหมายว่าจะมีพายุใหญ่ ไม่เพียงเท่านั้นยังได้พระราชทานเงินส่วนพระองค์เพื่อให้การขุดคลองลุล่วงเป็นการด่วน เพราะข่าวคราวพายุกระชั้นเข้ามา การทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำจึงเกิดขึ้น ทรงติดตามการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดและมิได้ย่อท้อด้วยพระองค์เอง จนกระทั่งการขุดลอกหนองใหญ่ และคลองระบายน้ำดังกล่าวแล้วเสร็จทันก่อนสิ้นเดือนตุลาคม 2540 พร้อม ๆ กับพายุไต้ฝุ่นลินดาพัดขึ้นฝั่ง และเป็นครั้งแรกที่ จ.ชุมพร รอดพ้นจากอุทกภัย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ปรากฏในรูปนิทรรศการจัดแสดงเรื่องราวภายในโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ พร้อมกับ“ถนนราชประชาร่วมใจ” ที่เกิดขึ้นโดยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ คงเหลือเป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำ
ภายในโครงการยังมีทิวทัศน์ที่งดงามของบึงน้ำกว้างสุดสายตา และสะพานไม้เคี่ยวทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตร รวมถึงศูนย์การเรียนรู้ต่าง ๆ ที่แบ่งเป็นฐานกิจกรรมด้านพลังงาน การเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยเฉพาะการปลูก ข้าวเหลืองปะทิวที่เป็นพันธุ์ข้าวโบราณประจำท้องถิ่นของชุมพร
ชุมพร ห่างจากกรุงเทพฯ 460 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ราว 6 ชั่วโมง แต่มีทางเลือกด้วยการเดินทางโดยสายการบินราคาประหยัด ทั้งนกแอร์ และแอร์เอเชีย วันละ 3 เที่ยวบิน ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง และใช้บริการรถเช่าจากที่สนามบิน เพราะสนามบินห่างจากตัวเมืองราว 30 ก.ม. หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือใช้บริการรถไฟ แต่ระยะเวลาเดินทางประมาณ 7 – 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว อาจเลือกรถไฟเที่ยวเช้าไปถึงเย็น หรือเที่ยวดึกเพื่อให้ไปถึงชุมพรเช้า ไม่เช่นนั้นจะดึกเกินไป
แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ก็คือ หาดทรายรี และอ่าวทุ่งวัวแล่น ที่ห่างไปประมาณ 30 นาที สามารถเล่นน้ำ และเช่าเรือดำน้ำดูปะการังเกาะง่ามน้อย เกาะง่ามใหญ่ เกาะจระเข้ ทั้ง skindive และ scuba diving ช่วงเวลาที่เหมาะสม คือในช่วงเดือนตุลาคม – เมษายน นอกจากนี้อยู่ไม่ไกลจากเขาเรดาร์ ซึ่งเป็นจุดดูเหยี่ยวอพยพ ในฤดูอพยพเดือนตุลาคม
ในละแวกต.สะพลี ไม่ไกลจากโครงการพัฒนาพื้นที่ฯ หนองใหญ่ มีร้านอาหารทะเลหลายร้าน แต่ที่รู้จักกันดี อาหารอร่อย สด ได้แก่ร้านเจ๊พร ซีฟู๊ด ร้านกาแฟสดถ้ำสิงห์เขามัทรี เป็นวิสาหกิจชุมชนอยู่ระหว่างทาง จากโครงการหนองใหญ่ มายังหาดทรายรี
ร้านอาหารและกาแฟ
ร้านอาหารป่ามะเหมี่ยว โทร. 08 1747 0573
ครัวคุ้มเงิน โทร. 08 9731 9778
B cafe’ coffee โทร. 06 3546 3656
ที่พัก
โรงแรม เซาท์เกท เรสสิเดนช์ ชุมพร โทร. 09 3575 0988
Thirty Tree Garden House โทร. 06 2229 4289
บ้านปายนา ชุมพร โทร. 0 7765 8244
บ้านพุ่มไม้รีสอร์ต โทร. 0 7754 9148
บ้านร่มไม้ โทร. 09 9756 8392
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ
ศูนย์ประสานงาน คุณพรพิรุณ ชลสาคร โทร. 083-623-23592
คุณนวพร สละชั่ว โทร. 095-973-1139
อีกครั้งที่ความรู้นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในชุมชนที่เกือบถูกทิ้งร้าง
ย่านการค้าเก่าแก่ริมแม่น้ำจันทบูรเคยรุ่งโรจน์สูงสุดตลอดช่วง 3 รัชกาล นับจากรัชสมัยพระพุทธเจ้าหลวง ผ่านมาจนถึงพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นค่อย ๆ เสื่อมโทรมลงเพราะสภาพบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป จนท้ายที่สุดมีสภาพเกือบเป็นห้องแถวร้างที่ปิดตาย เพราะคนรุ่นเก่าจากไปและคนรุ่นใหม่ไม่มีความผูกพัน อีกทั้งต้องมีค่าใช้จ่ายสูงมากในการดูแลรักษาอาคารเก่าให้คงสภาพดี
ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นพร้อมกับความรู้ เมื่อมีความพยายามศึกษา ค้นคว้าความเป็นมา และเรื่องราวของ หมู่เรือนแถวไม้แบบเขตร้อนประดับลายฉลุ และตึกแถวเก่าแบบปีนังอายุร้อยปีเหล่านี้ตลอดความยาว 1กิโลเมตรเศษของย่านท่าหลวง ตลาดล่าง ไปจนจรดย่านตลาดพลอย เป็นการฟื้นฟูย่านเก่าอย่างมีแบบแผน ไม่เพียงทำให้อาคารเก่าที่สร้างจากไม้และปูนขาวรุ่นเก่าเหล่านี้กลับมาอยู่ได้ หากยังฟื้นคืนจิตวิญญาณให้กลับคืนมาด้วย เพราะมีการสืบค้นย้อนกลับไปถึงบรรดาผู้เป็นเจ้าของอาคารเหล่านี้ เมื่อแรกสร้าง มีความเกี่ยวข้องกับเมืองจันท์และประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอย่างไร จนเกิดเป็นชุดข้อมูลที่ “เล่าเรื่อง” ได้ถึงความเป็นมาของชุมชนที่มีทั้งตัวตนและตัวคน
เมื่อมาเยือนชุมชนริมน้ำจันทบูร ไม่เพียงเพลิดเพลินกับของกินพื้นบ้านอันหลากหลาย ในบรรยากาศแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ของการอวดของดีประจำย่าน เป็นแหล่งของกินโบราณ ทั้งขนมไข่ป้าไต๊ ไอศกรีมตราจรวด ร้านกาแฟเก่า ก๋วยเตี๋ยวกั้ง ข้าวทะเลพริกกะเกลือเจ๊อี๊ด ฯลฯ หากยังมีเรื่องราวของใครต่อใครที่เคยอยู่ที่นี่ เช่นตึกแบบปีนังของพระยาวิชยาธิบดี ข้าหลวงเมืองจันทบูร สมัยรัชกาลที่ 5 บ้านหลวงราชไมตรี ที่กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนเล็ก ๆ และโรงแรมขนาดกะทัดรัด เรือนแถวไม้โบราณ ประดับฉลุของหลวงประกอบนิติสาร ฯลฯ
และยังเชื่อมโยงผ่านสะพานเล็ก ๆ ข้ามแม่น้ำไปสู่อีกฝั่งของโบสถ์คริสต์แบบโกธิคของอาสนะวิหารแม่พระปฏิสนธินิรมล
ประตูที่ปิดตายค่อย ๆ แง้มบานใหม่ พร้อม ๆ กับชีวิตชีวาที่มาพร้อมผู้คนมากมาย ลมหายใจที่ฟื้นคืนของย่านการค้าเก่าแก่แห่งหัวเมืองตะวันออก ริมลำน้ำจันทบูร อาจทำให้คุณเข้าใจว่าเหตุใด ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเรา จึงทรงให้ความสำคัญกับความรู้ และการเข้าถึงความรู้
การเดินทางโดยรถยนต์จากกทม. มายังเมืองจันทบุรี ประมาณ 3 ชั่วโมงเศษ สามารถจอดรถได้ที่ลานจอดฝั่งเดียวกับโบสถ์วัดพระแม่นิรมลปฏิสนธิ แล้วเดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำจันท์ มายังฝั่งย่านเก่า
ชุมชนริมน้ำจันทบูร หรือบ้านลุ่มอยู่ใจกลางเมืองจันทบุรี มีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงหลายแห่ง ทั้งที่เที่ยวทางธรรมชาติ อาทิ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว หรือ ชายหาดอ่าวคุ้งวิมาน หาดเจ้าหลาว และถนนบูรพาพชลทิศ เลียบชายหาด ผ่านปากน้ำแขมหนูที่มีทิวทัศน์งดงาม หรือแวะไปเที่ยวชุมชนขนมแปลกหนองบัว เป็นแหล่งรวมของกินเล่นแสนอร่อย
การเดินชมบรรยากาศชุมชนริมน้ำจันทบูร ยังเป็นแหล่งนักชิม มีร้านก๋วยเตี๋ยวกั้ง ก๋วยเตี๋ยวเจ้าสมุทร และข้าวทะเลพริกกะเกลือ ร้านเจ๊อี๊ดที่ห้ามพลาด ร้านขนมไข่ ของกินเล่นต่าง ๆ ร้านกาแฟก็มีหลายร้าน ทั้งคาเฟ่สำหรับนั่งชิลด์ ไม่จนถึงร้านกาแฟแบบโบราณ
ร้านอาหารและกาแฟ
ร้านอาหารบ้านแตง โทร. 08 9753 2756
ร้านซิปังโต้ โทร. 0 3935 0699
หวานจันทร์ โทร. 08 5088 8919
ที่พัก
ลาลูน่า ริเวอร์ เฮาส์ โทร. 09 0961 7953
โรงแรมเกษมศานติ์ โทร. 0 3931 1100
โรงแรมท่ามาจัน โทร. 09 8968 6111
บ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี โทร. 08 8843 4516, 08 1915 8815
สำรับจันท์ โทร. 08 0633 0055
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนริมน้ำจันทบูร โทร. 085 225 9983
ชุมชนศรีดอนไชยเป็นตัวอย่างอันแท้จริงของการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ภายใต้หลักแห่งความพอดี และพอเพียง สมดังพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9
หมู่บ้านไทลื้อริมลำน้ำอิง ที่ไม่เพียงรักษาขนบวิถีทั้งการแต่งกาย อาหารการกิน อันเป็นอัตลักษณ์ภายนอกเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แต่ยังหมายถึงสิ่งที่อยู่ภายใน คือแนวคิด และจิตใจ คุณจะได้รับประสบการณ์อันแสนพิเศษเมื่อได้มาร่วมกิจกรรม และพักในโฮมสเตย์ของชุมชนบนเรือนยกพื้นที่โปร่งโล่ง เป็นสัดส่วน ประหนึ่งได้ย้อนเวลาไปสู่สิบสองปันนาบนผืนแผ่นดินไทย
ชาวไทลื้อเป็นเจ้าของการแต่งการอันมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะผู้หญิงสวมเสื้อป้าย ย้อมด้วยคราม หรือสีธรรมชาติอื่น ๆ นุ่งซิ่นตีนจก เรียกว่า “ซิ่นตา” ซึ่งเป็นนับ “ที่สุด” ของการทอผ้าที่สืบทอดมาแต่โบราณ
ตัวซิ่นนับเป็นงานหัตถกรรมชั้นครูบนผืนผ้าทอ ประกอบขึ้นจากสามส่วน คือ หัวซิ่น ย้อมสีแดงชาด อาจต่อด้วยฝ้ายขาว ช่วงกลางซิ่น มีลวดลายเรียบง่ายเป็นทางขวาง หรือลายน้ำไหล และมีเทคนิคการทอต่อกับตีนซิ่น ซึ่งเป็นส่วนที่วิจิตรบรรจงที่สุด ประกอบด้วยเทคนิคการทอชั้นสูงของการจก หรือเกาะให้เส้นฝ้ายเกาะเกี่ยวตวัด อย่างเปี่ยมด้วยจินตนาการแห่งการออกแบบและใช้สี ลวดลายที่ใช้มักได้แรงบันดาลใจมาจากสัตว์ในวรรณคดีพื้นบ้าน ลายพรรณพฤกษา หรือแม้แต่การลดทอนลายละเอียดของรูปแบบจากธรรมชาติ
ผ้าซิ่นตีนจกเป็นหัตถกรรมที่ต้องใช้ความเพียร อุตสาหะ แต่เดิมนั้นการทอให้ได้สักผืนจะต้องทำจนครบกระบวนการตั้งแต่เข็นฝ้ายให้เป็นเส้นใย นำมาย้อม ก่อนจะทอด้วยความรัก และกระบวนการทั้งหมด ต้องทำด้วยกันในชุมชน นับเป็นกุศโลบายที่ทำให้เกิดความสามัคคี ชุมชนจึงมีความเข้มแข็ง ที่บ้านศรีดอนไชย ได้รับการสืบทอดจากคนรุ่นใหม่ที่ได้รับการปลูกฝังให้เห็นคุณค่า มีการรวบรวมผ้าทอโบราณมากมายหลายร้อยผืนเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเปิดให้เยี่ยมชม พร้อมกับการเรียนรู้ศิลปะการทอที่เปิดเป็นช่วงวัฒนธรรม นับเป็นการเล็งคุณคุณค่าและมูลค่า
บ้านไทยลื้อศรีดอนไชยยังงดงามด้วยทิวทัศน์ของท้องทุ่งกว้างริมลำน้ำอิง ที่มองผ่านขัวแตะหรือสะพานไม้ไผ่สานที่ทอดยาวออกไปไกลจนเชื่อมต่อถึง “ทุ่งสามหมอน” อันเป็นตำนาน เพราะเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านหลายชุมชนได้ใช้ประโยชน์มาแต่โบราณและร่วมกันปกป้องจนรอดพ้นจากการสร้างนิคมอุตสาหกรรมตามโครงการเศรษฐกิจพิเศษ ชาวบ้านยืนหยัดที่จะรักษาที่ราบกว้างริมฝั่งน้ำผืนนี้ไว้ให้ลูกหลาน เป็นการตัดสินใจเลือกวิถีชีวิตที่เรียบง่ายดั้งเดิมที่มีความสุขแทนอนาคตบนความไม่แน่นอนที่จะมากับอุตสาหกรรม
จากกรุงเทพฯ สู่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที ชุมชนไทลื้อศรีดอนชัยอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 90 ก.ม.
เส้นทางที่สะดวกที่สุด คือ เชียงราย – แม่จัน – เชียงแสน – เชียงของ ชุมชนอยู่ห่างเชียงของ 5 ก.ม. หรือใช้เส้นทางเชียงราย-พญาเม็งราย-ขุนตาล-เวียงแก่น-เชียงของ หากต้องการไปเที่ยวผาตั้ง ภูชี้ฟ้า
จากตัวอำเภอเชียงของ นอกจากเดินชมทิวทัศนของลำน้ำโขงแล้วยังสามารถนั่งเรือข้ามไปยังแขงบ่อแก้ว สปป.ลาวได้โดยใช้บัตรผ่านแดน หรือบอร์เดอร์พาส ถ้าไม่ได้พกพาสปอร์ต นอกจากนี้ยังสามารถเดินทาง แบบวงรอบไปยังภูผาตั้ง และภูชี้ฟ้าที่อยู่ทางด้านอ.เวียงแก่น ก็ได้
ที่กินที่ใกล้ชุมชุน คือร้านอาหารนางนวล และร้านอื่น ๆ ที่บ้านหาดไคร้ ติดริมแม่น้ำโขง เป็นแหล่งปลาสดจากแม่น้ำที่ขึ้นชื่อ ในหน้าแล้งยังมีไก หรือสาหร่ายแม่น้ำโขงทอด เป็นของว่าง Bamboo ในตัวอำเภอ มีร้านอาหารหลากหลาย ที่แนะนำก็คือ Bamboo Mexican House ว่ากันว่าเสิร์ฟอาหารเม็กซิกันที่อร่อยที่สุดแห่งหนึ่ง ร้านแจ่ม ผัดไทบ้านยิ้ม และร้านข้าวมันไก่ไหหลำที่ สำหรับร้านกาแฟขึ้นชื่อ คือ Rider’s Coffee ริมทางก่อนเข้าเมืองเชียงของ ส่วนในตัวเมืองเชียงของ มีร้านคาเฟ่ เดอ ลาว เสิร์ฟกาแฟ เค้ก และอาหาร
ร้านอาหารและกาแฟ
Bamboo Mexican House โทร. 0 5379 1621
7he Vow โทร. 08 8600 0599
Café De Lao โทร. 08 2385 7800
ที่พัก
แฟมิลี่ เฮ้าส์ รีสอร์ต โทร. 08 5094 3749, 08 0090 3783
ฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ โทร. 0 5205 0089-091
เคียงโขง ชาเล่ย์ โทร. 08 1623 6916
บ้านฝ้าย เชียงของ โทร. 05 379 1394
สยามธารา รีสอร์ต โทร. 08 9660 7660
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
กลุ่มท่องเที่ยวบ้านศรีดอนไชย
คุณสมชาย โทร. 08 9560 1908
คุณศุกร์ขำ โทร. 08 6185 4907
ข้าวเหนียวห่อตอง ยำหน่อแหนมหมกไข่ น้ำพริกเห็ดหล่ม อาจเป็นเพียงของกินพื้นบ้านธรรมดาในสำรับหรือซื้อหากินได้จากกาดริมทาง หากสำหรับที่ชุมชนบ้านปงห้วยลานข้าวตอนริมทุ่ง มื้อนี้กลับมีความหมายเพระมันกำลังบอกเล่าเรื่องราวมากมายของหมู่บ้านในหุบเชิงดอยโง้มที่มิได้แห้งแล้งและยากจนอีกต่อไป ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเมื่อ 3 ทศวรรษก่อน เพียงชั่วไม่นานแห่งการมาถึงของคนผู้หนึ่ง
ข้าวนึ่งในห่อปลูกเอง หน่อไม้รวกตัดหาได้จากท้ายบ้าน เห็ดหล่มในป่าแพะ ไข่ไก่เลี้ยงเอง กินเคียงกับผักพื้นบ้านของอุ๊ยสมที่ปลูกแบบอินทรีย์ กลายเป็นชีวิตที่แทบไม่มีรายจ่ายรั่วไหล หากยังได้ความอิ่มหนำที่คุณภาพดี กินปลอดภัยอีกด้วย นี่คือคุณภาพชีวิตในแบบฉบับของชาวบ้านปง ห้วยลาน ที่กลายมาเป็นชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง
ความเป็นต้นแบบ หมายถึงการทำจริง อยู่จริงเพื่อให้เป็นแรงบันดาลใจต่อไปยังคนอื่น ๆ
อ่างเก็บน้ำห้วยลาน เกิดขึ้นภายหลังการเสด็จพระราชดำเนินของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อพ.ศ. 2530 พร้อมกับสถานีประมง การศึกษาป่าไม้ ทำให้ชาวบ้านมีน้ำกินน้ำใช้เพียงพอ เพราะน้ำคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
ห้วยลานยังเชื่อมโยงไปถึงนิเวศท้องถิ่น อันเป็นที่ราบมีต้นลานขึ้นอยู่มากมาย ชาวบ้านนำใบลานมาใช้ประโยชน์ด้วยการสานเป็นกระติ๊บ กระเป๋าสะพายเก๋ ๆ ไปจนถึงลัลลาบายปลาตะเพียนประดับบ้าน ซึ่งคุณจะได้มีโอกาสไปร่วมเรียนรู้การสานปลาตะเพียนตัวน้อยกลับมาเป็นที่ระลึก
ข้าวเขียวชูเรียวใบชอุ่มในหน้าฝน ภูมิทัศน์อันชื่นตารอบหมู่บ้านที่โอบล้อมด้วยทิวเขาใหญ่ ชวนให้ปั่นจักรยาน หรือออกเดินช้า ๆ เยี่ยมเยียนพ่ออุ๊ยแม่อุ๊ยถึงบนเรือน ไปดูการปั่นฝ้าย จากปุยฟูขาวให้กลายเป็นเส้นใย จนพร้อมนำไปทอเป็นผืนด้วยกี่แบบเก่า ชิมขนมอร่อยที่ได้จากถั่ว งา น้ำตาลอ้อย
ตกค่ำพักบนเรือนกับชาวบ้าน ซึ่งหมายถึงความเป็นที่สุดของการมาเยือนชุมชน ซึ่งเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่อยู่บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน การยอมรับ และจัดการกับความคาดหวังที่เกินพอดีบนพื้นฐานของมิตรภาพ และความเข้าใจที่ผ่านการเรียนรู้ร่วมกันมาตลอดทั้งวัน เวลาอีกเพียงหนึ่งคืน หมายถึงความผูกพันที่อาจคงอยู่ไปจนชั่วชีวิต
เส้นทางกรุงเทพฯ – ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ มี 53 เที่ยวบินต่อวัน หรือเลือกเดินทางโดยรถไฟ อุตราวิถี ใช้รถไฟใหม่ที่สะอาดและสะดวกสบายออกจากกทม. 18:10 ถึงเชียงใหม่ 07:15 น. นอกจากนี้ยังมีรถทัวร์วีไอพี นับสิบบริษัท การเดินทางจึงสะดวกมาก
สำหรับบ้านปง ห้วยลาน ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ราว 30 นาที ใช้เส้นทางผ่านอ.สันกำแพง ไปราว 15 นาทีในย่านนี้ยังสามารถกำหนดเส้นทางท่องเที่ยวแบบวงรอบ โดยเดินทางต่อไป ยังโครงการ หลวงตีนตก และบ้านแม่คำปอง กลับเข้าสู่เชียงใหม่ทางด้านอ.ดอยสะเก็ดก็ได้
ร้านอาหารที่น่าสนใจใกล้กับชุมชน มีร้านสันกำแพงโภชนา เป็นร้านเก่าแก่ ห่างจากชุมชนประมาณ10 ก.ม. มีเมนูอาหารพื้นบ้าน อาหารไทยรสจัดจ้าน และร้านสวนผักฮักคุณ เป็นร้านอาหารไทย ร้านกาแฟ บรรยากาศร่มรื่น เนื้อที่กว้างขวาง มีแปลงปลูกผักอินทรีย์ขนาดใหญ่ หากเป็ข้าวซอย ต้องร้านข้าวซอยลุงปั๋น ขายมานานกว่า 3 รุ่น ห่างจากชุมชน 10 ก.ม.
สำหรับร้านกาแฟ มีร้านน่าสนใจบรรยากาศนั่งสบายหลายร้าน ได้แก่ ร้านใจบุญ เชียงใหม่,กาแฟโรงงาน@สันกำแพง ร้านหน้าถัง ร้านGreenery Coffee Bar
ร้านอาหารและกาแฟ
Aroy Garden โทร. 08 7273 0146
ร้านอาหารบ้านปงลอดจ์ โทร. 0 5303 6105
กาแฟโรงงาน โทร. 09 8798 5548
ที่พัก
San Kam Phaeng Lake View โทรสาร 0 5338 1039
บ้านปง ลอดจ์ โทร. 0 5303 6105
เดอะ ล็อก ออฟ พารา โทร. 08 9756 8555
อัลไพน์กอล์ฟรีสอร์ต เชียงใหม่ โทร. 0 5388 0888
Lanna House Lanna Hut โทร. 08 8260 3914
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
การท่องเที่ยวชุมชนบ้านปงห้วยลาน
คุณจินดา โทร. 08 2187 2452
คุณวรรนา โทร. 08 5615 7686
บ้านหนองส่าน มีการจัดการการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่มีความพิเศษคือ เป็นการริเริ่มโดยคนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่เชื่อมโยงองค์ความรู้ของปู่ย่าตายายให้สามารถเข้าถึงได้อย่างมีสีสัน และกลมกลืนไปกับคนร่วมสมัย โดยการท่องเที่ยวชุมชนบ้านหนองส่าน จะพาคุณสัมผัสกิจกรรรมในหมู่บ้านที่มิได้ปรุงแต่ง หากแต่ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงทั้งในเรื่องการกินอยู่ สำรับอาหาร ที่หลับที่นอน อันเป็นการสะท้อนความเป็นจริงของการท่องเที่ยวในชุมขน ซึ่งโดยเนื้อแท้แล้ว เป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทั้งจากผู้มาเยือน และคนในชุมชนเอง
การปรับตัวเข้าหากัน จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมิตรภาพมีความสำคัญกว่าความต้องการให้ได้มาตรฐานของห้องพักแบบเดียวกับโรงแรม
ชื่อบ้านหนองส่าน มาจากลักษณะภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ ในวงล้อมของเทือกเขาภูพาน มีกุดหนอง และลำน้ำที่อุดมสมบูรณ์ ขณะเดียวกันก็มีต้นส่าน หรือต้นส้าน ซึ่งเป็นไม้ในป่าผลัดใบ ขึ้นตามที่ดอน ชื่อหมู่บ้านจึงบอกได้ถึงลักษณะที่โดดเด่นของชุมชน และภูมินิเวศเช่นนี้เองได้ถูกกำหนดเป็นเส้นทางท่องเที่ยวจากหมู่บ้าน แปลงไร่นา ไปจนถึงป่า และน้ำตก ซึ่งเป็นลำธารเล็กที่ไหลมาจากเทือกเขาภูพาน โดยใช้รถอีแต๊กเป็นพาหนะ
พาตระเวนชมบรรยากาศในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเรือนไม้ยกพื้นสูงแบบฉบับเรือนอีสานที่โปร่งและสะอาดสะอ้านจากนั้นไปสัมผัสโครงการเกษตรพึ่งตนเองที่เรือนโสมนัสของป้าอ้อยกับป้าดา กินข้าวกลางวัน โดยคุณป้าใจดีทั้งสองคนจะพาเก็บหาวัตถุดิบในสวนกว้าง เก็บบวบ แทงหน่อไม้รวก พืชผักเท่าที่มีในแต่ละช่วงฤดู จับปลาขาว ปลาสร้อย จนกลายมาเป็นมื้อกลางวันอันแสนพิเศษ ได้แก่ ต้มเปรอะหน่อไม้ ตำบักหุ่ง ปลาขาวปิ้ง หมุนเวียนไปตามฤดูกาล
บ้านหนองส่านยังมีองค์ความรู้ในการผลิตผ้าคราม การทำครามเปียก และก่อหม้อย้อมคราม จึงมีผืนผ้าฝ้ายทอลวดลายแบบพื้นบ้านอยู่มากมาย ต่อมาได้นำมาต่อยอดด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีรูปแบบร่วมสมัย เป็นกระเป๋าสะพายใบเล็ก เย็บผสมกับหนัง เสื้อคลุมแบบญี่ปุ่น ฯลฯ ผู้มาเยือนไม่เพียงร่วมเก็บใบคราม เรียนรู้การหมักจนได้ครามเปียก การย้อมผ้า แต่ยังได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย ประหนึ่งเลือกซื้อหาจากอีเวนต์งานคราฟต์ที่ไหนสักแห่งใจกลางกรุง
ความเข้าใจในถิ่นฐาน การไม่ละทิ้งคนรุ่นเก่า การริเริ่มทำจากสิ่งเล็ก ๆ ก่อน เมื่อคลังแห่งความรู้ความเข้าใจเพิ่มพูนจึงระเบิดจากข้างใน นำมาสู่การพัฒนาในแบบที่ไม่ละทิ้งตัวตนและรากเหง้าทั้งหลายทั้งปวง คือ ศาสตร์แห่งพระราชาที่ถูกนำมาปรับใช้ โดยคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ เชิงภูพาน
ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ราว 9 ชั่วโมงจากกทม. ดังนั้นรถทัวร์แบบวีไอพี เที่ยวกลางคืนมาถึงสกลนครเช้า จึงเป็นทางเลือกที่ดี หรือเดินทางโดยสายการบินราคาประหยัด วันละ 4เที่ยวบิน ใช้เวลาเดินทาง1 ชั่วโมง 10 นาที
บ้านหนองส่าน ห่างจากตัวเมืองสกลนคร 45 ก.ม. และห่างจากตัวอำเภอภูพานอีก 7 ก.ม.
ตัวเมืองสกลนครเป็นเมืองกะทัดรัดที่น่าประทับใจ เมื่อมาถึงต้องไปกราบพระธาตุเชิงชุม และหากเป็นเสาร์อาทิตย์จะมีตลาดผ้าครามที่ถนนผ้าคราม ใกล้กับหน้าวัด สำหรับเส้นทางไปบ้านหนองส่าน ถนนจะคดเคี้ยวไปตามเทือกเขาภูพาน โดยเฉพาะที่โค้งปิ้งงู ที่เที่ยวใกล้เคียงคืออุทยานแห่งชาติภูพาน มีน้ำตกคำหอม และพระตำหนักภูพาน
ร้านอาหารในอ.ภูพาน ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารขนาดเล็ก ที่รองรับกลุ่มใหญ่ได้ก็คือ ร้านอาหารสวนนก ตั้งอยู่ภายในไร่ภูพานรีสอร์ต ส่วนร้านกาแฟมีร้านเรือนลูกไม้ ตรงข้ามสภ.สร้างค้อ
ตัวเมืองสกล มีร้านอาหารแนะนำหลายร้าน เช่น สบันงา อาหารไทยอาหารพื้นบ้าน หรือส้มตำไก่ย่างต้องร้านนิดหน่อย ส้มตำ ใกล้สถานีขนส่ง และร้านเตาถ่านโคขุนโพนยางคำ
ร้านอาหารและกาแฟ
ครัวอิงภู โทร. 061 530 4461
ร้านก๋วยเตี๋ยวอาหารตามสั่งนางเติ่ง โทร. 042 163 820
Sonata’s Cafe โทร. 08 4957 7722
Get Idea Coffee โทร. 09 3562 6964
ที่พัก
Hop’n Hip Hotel โทร.042-747-474, 089-155-4569
โรงแรมบางจากภูพานรีสอร์ต โทร.080-749-2727
โรงแรมโชคดีเพลส โทร.042-972-098
โรงแรม Hop Inn โทร.02-659-2899
โรงแรมเมธา พาเลซ โทร.042-712-497
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
คุณพรพิมล มิ่งมิตรมี โทร. 09 8476 3184