บ้านกุดแฮด เป็นหมู่บ้านของชาวไทกะเลิงที่ตั้งถิ่นฐานบริเวณที่ราบเชิงภูพานมานานนับศตวรรษ นอกจากทำนาปลูกข้าวเฉกเช่นชาวบ้านทั่วไปในภาคอีสาน ชาวกุดแฮดยังเชี่ยวชาญการทำผ้าครามเอาไว้ใช้เองมาแต่โบราณ
เนื้อดินในหุบเขาภูพานต้นแม่น้ำสงครามเหมาะสำหรับการปลูกครามคุณภาพสูง ชื่อของแม่น้ำ ก็บอกอย่างชัดเจน ด้วยเนื้อดินดี ครามจึงให้ใบหนา เนื้อสีมาก ชาวบ้านกุดแฮดจะเก็บใบครามแก่จากต้นรุ่นตั้งแต่ก่อนตะวันขึ้นแล้วนำไปหมักด้วยกระบวนการธรรมชาติจนถึงขั้นตอนการก่อหม้อครามด้วยวิธีที่เป็นเอกลักษณ์
แม้ผ้าครามสกลนคร จะขึ้นชื่อในคุณภาพ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์ GI ของจังหวัด แต่การผลิตในแต่ละพื้นที่ก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะการเลือกเส้นฝ้ายทอ
ผ้าครามของบ้านกุดแฮด ใช้ฝ้ายพื้นบ้านด้วยเข็นมือ แม้จะให้เส้นฝ้ายที่ใหญ่และดูไม่สม่ำเสมอ แตกต่างจากเส้นใยโรงงาน แต่ก็มีความนุ่มนวล ให้ความรู้สึกพิเศษเมื่อสัมผัสอีกทั้งเป็นการปลูกด้วยวิธี ธรรมชาติเหมือนเช่นที่คนรุ่นพ่อแม่เคยปลูก ส่วนการทำครามก็มีเคล็ดลับที่สืบทอดกันมายาวนาน ได้สีคราม เข้ม เนื้อสีดี มีกลิ่นหอมพิเศษเป็นเอกลักษณ์
ที่บ้านกุดแฮดยังเป็นแหล่งผลิตน้ำหมากเม่า ซึ่งเป็นเบอร์รี่พื้นบ้าน สีแดงฉ่ำ รสหวานอมเปรี้ยวเจือฝาดเล็กน้อย มีวิตามินซีสูง และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ เป็นผลิตภัณฑ์GI คุณภาพสูงอีกอย่างหนึ่งของสกลนคร ซึ่งน้ำหมากเม่าของบ้านกุดแฮด ก็เช่นเดียวกับผ้าคราม คือ เน้นความเป็นธรรมชาติ จึงผลิตจากเนื้อหมากเม่าแท้ ๆ ให้รสธรรมชาติ ไม่เติมน้ำตาล
บรรยากาศของหมู่บ้านเก่าแก่นี้ มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นครึ้ม โดยเฉพาะต้นผึ้ง ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีพูพอนขนาดยักษ์ บางต้นมีขนาดถึง 15 คนโอบเลยทีเดียว การพักโฮมสเตย์ในชุมชนก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี คุณสามารถพักได้ที่เรือนอินแปง ซึ่งสร้างแบบไทกะเลิงแท้ ๆ ลักษณะเป็นเรือนไม้จริง ยกพื้นสูง โปร่ง ชานกว้าง ในอดีตใช้เป็นลานอีด และปั่นฝ้าย มีเรือนครัวเล็ก ๆ แยกออกมา
หลังทำกิจกรรมที่น่าสนุกและหลากหลายกับชุมชน การพักโฮมสเตย์ในชุมชนช่วยเติมเต็มประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ได้สัมผัสอากาศเย็นสบายจากลมภูพาน ตื่นแต่หัวรุ่งใส่บาตร และเฝ้าดูวิถีชีวิตที่กำลังเริ่มต้น ทักทายกับพ่อใหญ่แม่ใหญ่ใจดี ตกสายยังสามารถท่องเที่ยวในละแวกอุทยานแห่งชาติภูพาน
สกลนครเป็นจังหวัดที่มีผลิตภัณฑ์ขึ้นทะเบียน GI มากที่สุด และที่ขึ้นชื่ออีกอย่างก็คือ เนื้อโคขุนโพนยางคำ ซึ่งเป็นการเลี้ยงโคขุนตำรับฝรั่งเศส ให้เนื้อคุณภาพดี นุ่ม และหอม สามารถแวะรับประทานสเต๊กเนื้อโพนยางคำแท้ ๆ ที่ร้านสเต๊กสหกรณ์ ภายในสหกรณ์โพนยางคำ หรือร้านสเต๊กในบรรยากาศแบบโรงนาตะวันตก ก็ต้องไปที่ลิตเติล ฟาร์มฮัก ซึ่งอยู่ถัดจากสหกรณ์ไปราว2 กิโลเมตร
ในเมืองสกลนคร ก็อาจรับประทานได้ที่เตาถ่านโคขุนโพนยางคำ หรือเมนูเนื้อย่างจิ้มน้ำแจ่วที่ร้านสบันงาก็ย่างเนื้อให้ความนุ่มนวลไม้แพ้กัน และหากเดินทางในช่วงสุดสัปดาห์ แวะกราบพระธาตุเชิงชุม และเดินเที่ยวชมถนนผ้าคราม ที่ละลานตาด้วยผ้าครามยาวที่สุดในโลก เปิดตลาดตั้งแต่บ่าย ๆ จนถึงค่ำ
การเดินทางไปสกลนครนั้น สะดวกสบายด้วยเที่ยวบินมากกว่า 4 เที่ยวต่อวัน ทุกวัน ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงสิบนาที หรือหากต้องการขับรถเที่ยว ก็ใช้เวลาราว 8 ชั่วโมง แลกด้วยประสบการณ์เดินทางทางรถยนต์ที่ไม่เหมือนเส้นทางขึ้นเหนือล่องใต้
หากเดินทางโดยรถยนต์ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯไม่น้อยกว่า 9 ชั่วโมง ใช้เส้นทางปากช่อง – นครราชสีมา – บ้านไผ่ – บรบือ – มหาสารคาม – กาฬสินธุ์ – ภูพาน – สกลนคร การเดินทางโดย สายการบินราคาประหยัดจึง เป็นอีกทางเลือกที่ดี ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงเศษ สนามบินสกลนครก็ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก สามารถเดินทางต่อไปยังบ้านกุดแฮด ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
เส้นทางสู่บ้านกุดแฮด จะผ่านถนนคดเคี้ยวของเทือกภูพาน มีทิวทัศน์ที่สวยงาม แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ให้แวะเยือน ทั้งโค้งปิ้งงู น้ำตกคำหอม อุทยานแห่งชาติภูพาน พระตำหนักภูพาน และที่เที่ยวน่าสนใจที่ไม่ไกล จากตัวเมือง น่าจะแวะไปเยือนก็คือ ชุมชนคริสตังบ้านท่าแร่ ซึ่งตั้งอยู่ริมหนองหาน มีเรือนเก่า และตึกแบบ ฝรั่งเศสโบราณร้อยปีที่งดงามมาก
สำหรับอาหารกินในย่านใกล้เคียง อาจจะหายาก มีแต่ร้านพื้นบ้าน หรืออาหารจานเดียวเรียบง่าย ร้านอาหาร อร่อย น่าสนใจ ล้วนรวมอยู่ละแวกตัวเมืองสกลนคร ได้แก่ ร้านสบันงา อาหารพื้นบ้าน ที่รสชาติ ดีแทบทุกเมนู สเต๊กโคขุนโพนยางคำ ซึ่งเป็นGI ของจังหวัด มีให้เลือกที่ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ชื่อร้านเตาถ่าน หรือร้านทองดีเรสทัวร็องต์ สเต๊กและอาหารตะวันตก ถนนกำจัดภัย ถ้าเป็นนอกเมืองก็มีที่ร้านฟาร์มสุข หรือสามารถเลือกไปชิมสเต๊กถึงฟาร์มก็ต้องร้านสเต๊กสหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์กรป.กลาง โพนยางคำ
ร้านกาแฟน่านั่ง โดยมากจะอยู่ในเมือง คือร้านภูหอม กาแฟและเบเกอรี่ อีกร้าน คือStudio Café ใกล้วัด พระธาตุเชิงชุม ร้านcafé de bon ใกล้สถานีขนส่ง1 หากเป็นที่ย่านชุมชนเก่าท่าแร่ ก็มีร้านวราคาเฟ่ จิบกาแฟ อยู่ริมตึกเก่าร้อยปี
ร้านอาหาร
ร้านไก่ย่างลำดวน บ้านนาคำ โทร. 04 2747 032
ที่พัก
บ้านต้นไม้ฟาร์มสเตย์ โทร. 08 8319 1936
บ้านไร่ผักหวาน โทร. 09 8664 4936
นานารีสอร์ต โทร. 0 4278 4099
เฮือนฮิมภู สกลนคร รีสอร์ต โทร. 08 5419 6998
สวนสมใจรีสอร์ต โทร. 08 4786 9747
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
วิสาหกิจชุมชนทอผ้าย้อมครามผ้าไหมบ้านกุดแฮด โทร. 089 570 7427
คุณวรรณิภา ศรีมุกดา โทร. โทร. 097 262 1574
บางที องค์พระธาตุลำปางหลวง ที่ อ.เกาะคา และพระวิหารอันประดับลวดลายจากงานปูนปั้นหลายแห่งในเมืองลำปาง คือ ศิลปะล้านนาในยุคคลาสสิกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ได้สะท้อนถึงความเป็นเอกของสกุลช่าง ลำปางที่สร้างสรรค์ผลงานมาแต่โบราณได้นั้น ก็อาจเนื่องมาจากการมีแหล่งวัตถุดิบเฉพาะที่อยู่ในท้องถิ่นก็เป็นได้
ปัจจุบันลำปางเป็นเมืองหลวงของอุตสาหกรรมเซรามิกของเมืองไทย มีการพัฒนารูปแบบที่สร้างสรรค์ และหลากหลาย ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจากชามแบบจีน เนื้อกระเบื้องเคลือบหนา สีขาวเขียนลายที่เรียกว่า ชามตราไก่ ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด
การผลิตถ้วยชามตราไก่ในเมืองลำปาง แม้จะมีโรงงานผลิตกระจายอยู่ทั่วไปในจังหวัด แต่ที่น่าสนใจก็คือ มีแหล่งผลิตแหล่งใหญ่อยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง คือบ้านศาลาบัวบกที่ไม่ไกลจากองค์พระธาตุลำปางหลวง เพียงหมู่บ้านเดียวมีโรงงงานเซรามิกถึง 33 โรง การอยู่รวมกันเป็นคลัสเตอร์ ทำให้มีข้อดี คือเกิดการประสานการผลิต ดูแลมาตรฐาน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ไปในแนวทางเดียวกัน
ทั้งนี้ ถ้วยชามตราไก่ เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ของ จ.ลำปางโดยมีความพิเศษจากเนื้อดินขาวลำปาง ซึ่งพบกระจายอยู่อย่างกว้างขวาง ตามธรณีสัณฐานของ จ.ลำปาง เหมาะสำหรับนำมาผลิตเซรามิก และสูตรการผสมดินดำ และวัสดุอื่น ๆ ตลอดจนรูปแบบการทำน้ำเคลือบใส และการเขียนลายใต้เคลือบที่เป็นเอกลักษณ์
ที่หมู่บ้านแห่งนี้มีโรงงานเซรามิกถึง 33 โรง เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของ GI ไม่เพียงเป็นแหล่งผลิตชามตราไก่ และเซรามิกรูปแบบต่าง ๆ ที่นี่ยังมีการพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์คือไม่เพียงมุ่งไปสู่ความเป็นอุตสาหกรรม แต่ยังหันมาคำนึงถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบใหม่ที่คำนึงถึงต้นทุนทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความคิดสร้างสรรค์ โดยชุมชนเป็นผู้บริหารเอง จนเกิดเป็น “เซรามิก สปา” แห่งเดียวในเมืองไทย
ด้วยการใช้ “ลูกแก้ว” จากเซรามิกที่ทำขึ้นเป็นพิเศษร่วมกับอ่างน้ำอุ่นสมุนไพรแช่เท้า โดยลูกแก้วเซรามิกจะช่วยคลึงเท้าคลายความปวดเมื่อย และทำให้ผ่อนคลาย เป็นการผสมผสานระหว่างผลิตภัณฑ์ของชุมชนเข้ากับการนวดแผนไทย นอกจากนี้ยังประยุกต์เอาอาหารพื้นบ้านมาสู่เมนูสุขภาพอย่างครบวงจร โดยให้ผู้มาเยือนเรียนรู้ สูตรการทำไปพร้อม ๆ กัน เช่น การทำน้ำคลอโรฟิล น้ำพริกผักนึ่ง แคบหมู แกงหัวปลี น้ำนมข้าวกล้อง ข้าวแต๋นน้ำแตงโม เป็นต้น
และเพื่อสมกับความเป็นหมู่บ้านเซรามิก จึงเปิดโอกาสให้ร่วมเพนต์ลายลงบนชิ้นงานเซรามิก เพื่อนำไปเคลือบ เกิดเป็นของที่ระลึกที่ได้ทำด้วยจนเองชิ้นเดียวในโลกง
จาก อ.เกาะคาที่มีศูนย์กลางอยู่ที่วัดพระธาตุลำปางหลวง ซึ่งไม่ไกลจากตัวเมืองลำปางนัก ควรเผื่อเวลาสำหรับการเดินชมเมืองในบรรยากาศใหม่ๆ ที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะวัดสำคัญต่าง ๆ รวมถึงย่านสะพานขาว หรือ สะพานรัษฎาภิเษก ที่มีงานสตรีทอาร์ตของเมืองลำปาง แล้วเลยไปกาดกองต้า กับบ้านท่ามะโอ ที่อยู่คนละฝั่งลำน้ำวัง
จากกรุงเทพฯ สู่ท่าอากาศยานลำปาง มี 6 เที่ยวบินต่อวัน ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 25 นาที หรือเดินทางโดย รถไฟด่วนพิเศษ หลับสบายตลอดคืนถึงลำปางแต่เช้า บ้านศาลาบัวบกอยู่ไม่ไกลจากวัดพระธาตุลำปางหลวง ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองลำปางเพียงไม่เกิน 20 นาที
แหล่งท่องเที่ยวในย่านนี้นอกจากวัดพระธาตุลำปางหลวงอันเป็นศูนย์กลางของลำปางแล้ว ยังมีวัดโบราณ ที่งดงามอีกแห่งของอ.เกาะคา คือ วัดเสลารัตนปัพพะตาราม ชาวบ้านเรียกว่าวัดไหล่หิน และหากมีเวลาเหลือ สามารถเที่ยวชมวัดสำคัญในตัวเมืองลำปาง อาทิ วัดพระแก้วดอนเต้ วัดปงสนุก และย่านเก่าที่กาดกองต้า และข้ามฝั่งน้ำวังไปยังย่านท่ามะโอที่มีบ้านหลุยส์ เป็นจุดเด่น
สำหรับที่กิน ในย่านอ.เกาะคา ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารจานเดียว มีร้านข้าวซอย ใกล้กับพระธาตุลำปางหลวงชื่อ ข้าวซอยป้าเดือน หรือเลยไปร้านเฮือนงิ้วแดง ร้านอาหารเหนือ บนเส้นทางไปวัดพระธาตุลำปางหลวงเช่นกัน กว้างขวางนั่งสบาย ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเนื้อตุ๋น ตรงข้ามธนาคารออมสิน สาขาเกาะคา
ส่วนร้านกาแฟบริเวณใกล้เคียง คือร้านชีวา กาแฟสด ตรงข้ามวัดพระธาตุลำปางหลวง นอกจากนี้มีร้านโคโค่ คอฟฟี่ ริมทางหลวงสาย1 หลักก.ม.683 และคำหอมกาแฟสด ได้บรรยากาศริมทุ่ง
ลำปาง ข้าวแต๋น ชามตราไก่ ชุมชนบ้านศาลาบัวบก
ร้านอาหาร
ก๋วยเตี๋ยวพี่เปิ้ลศาลาไชย โทร. 08 1998 3899
ที่พัก
ลำปาง ริเวอร์ ลอดจ์ โทร. 0 5433 6641
โรงแรมโมนาลิซ่า โทร. 0 5425 0311
เอ็นจอย รีสอร์ต โทร. 08 1783 7735
ปาณิฉัตร รีสอร์ต โทร. 0 5425 0017
ลำปาง กรีน การ์เด้น รีสอร์ต โทร. 06 2309 8568
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
กลุ่มท่องเที่ยวบ้านศาลาบัวบก โทร. 09 5451 3991
บางครั้งนวัตกรรมใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้นจากการผสมผสานทักษะ ภูมิปัญญา และวัตถุดิบใกล้ตัวที่มีอยู่ในท้องถิ่น เพื่อใช้แก้ปัญหาให้กับตัวเอง ก่อนที่จะเผยแพร่ออกไปสู่คนภายนอก จนได้รับการยอมรับ ดังเช่นเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านปกากะญอเล็ก ๆ ในวงล้อมของเทือกเขาสูงชันแห่งอ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน
บ้านห้วยห้อม เป็นหมู่บ้านบนไหล่ดอยสูงที่มีทิวทัศน์งดงามของนาขั้นบันได และทิวดอยในม่านหมอก แต่สำหรับชาวบ้าน เบื้องหลังความงดงามของภูมิทัศน์เบื้องหน้านี้ คือความหนาวเย็นอันแสนทรมาน โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว การผิงไฟ อาจจะช่วยได้บ้าง แต่ก็ไม่ดีเท่ากับการมีเสื้อผ้าอุ่น ๆ ช่วยรับมือกระแสลมยะเยือกจากหัวดอย
หมู่บ้านที่ยากจนแห่งนี้ได้รับแกะ 5 ตัวจากมิชชันนารีเมื่อราว พ.ศ.2500 โดยหวังจะให้เรียนรู้การทอผ้าขนแกะ แต่ผ้าขนแกะก็ไม่สอดคล้องกับวิถีดั้งเดิม แต่ชาวบ้านได้นำเอาความรู้ด้านผ้าฝ้ายทอพื้นเมืองย้อมสีธรรมชาติ ทอด้วยหูก หรือกี่พื้นบ้านแบบง่ายๆ มาทอผสมเข้ากับเส้นใยขนแกะแทน จนเกิดเป็นผ้าทอที่ยังมีสัมผัสแบบฝ้ายที่คุ้นเคย แต่รักษาความอบอุ่นได้ดีจากขนแกะ และมีสีที่สวยงาม
ผ้าพิเศษนี้ได้รับการพัฒนาต่อมาด้วยขนแกะคุณภาพดีขึ้นที่ได้รับพระราชทาน จวบจนทุกวันนี้ ฝ้ายทอขนแกะ คือนวัตกรรมชุมชนที่ไม่เหมือนกับที่ใด และได้แจ้งจดทะเบียน GI
นอกจากผ้าฝ้ายทอผสมขนแกะ ที่บ้านห้วยห้อมยังรู้จักการปลูกกาแฟอาราบิก้ามานานกว่า 40 ปี ได้ผลผลิตค่อนข้างดีเพราะอยู่บนพื้นที่สูงและดินอุดมสมบูรณ์ของเทือกเขาถนนธงชัยตอนบน แต่กระบวนการโพรเสซ หรือการทำกาแฟยังไม่ดีนัก แต่ก็ได้รับการพัฒนาในช่วงหลังจนการผลิตได้มาตรฐานขึ้น ปัจจุบันผลผลิตกาแฟสารจากบ้านห้วยห้อม เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการกาแฟระดับประเทศ
โฮมสเตย์ที่เรียบง่าย ทิวทัศน์ของนาขั้นบันไดเขียวขจีตอนกลางฝน ปรากฏให้เห็นทันทีที่ลืมตาตื่น กาแฟเบลนด์พิเศษดริปหอม ๆ ให้จิบ และอุ่นสบายอยู่ในผ้าพันคอที่ทอผสมผสานจากฝ้าย และขนแกะพันธุ์พระราชทานด้วยหูกทอผ้าแบบดั้งเดิม ให้บรรยากาศของการพักผ่อนที่ไม่เหมือนแห่งใดในโลก เป็นความเรียบง่ายที่มีเรื่องราว และงดงามอย่างน่าจดจำ
จากกรุงเทพฯ มีเที่ยวบินตรงสู่แม่ฮ่องสอน โดยสายการบินนกแอร์ เฉพาะวันอาทิตย์ พุธ และศุกร์ หรือเลือกเที่ยวบินจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนของบางกอกแอร์เวย์ วันละ 1 เที่ยวบินเวลา 15:45 น. ใช้เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง แต่จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนมายังชุมชน ระยะทางค่อนข้างไกล และคดเคี้ยว ระยะทาง135 ก.ม. ใช้เวลาร่วมๆ 3 ชั่วโมง การเดินทางโดยรถยนต์จากตัวเมืองเชียงใหม่โดยใช้เส้นทาง เชียงใหม่ – จอมทอง – ฮอด – แม่สะเรียง – แม่ลาน้อย ระยะทาง 280 ก.ม. จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เส้นทางนี้มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ ตลอดเส้นทางไปจนถึงชุมชนบ้านห้วยห้อมเลยทีเดียว
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจใกล้ชุมชน คือ ถ้ำแก้วโกมล ซึ่งเป็นถ้ำที่สวยงามด้วยผลึกแคลไซต์ระยิบระยับ อย่างไรก็ตามทิวทัศน์ของบ้านห้วยห้อม และโครงการหลวงที่ประกอบด้วยเทือกเขาสูง และนาขั้นบันไดก็งดงาม อากาศเย็นสบายจนแทบไม่อยากไปไหนไกล หากเดินทางโดยรถยนต์จากเชียงใหม่ มีแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ริมทาง แวะได้อย่างสะดวก ได้แก่ พระธาตุศรีจอมทอง บ้านไร่ไผ่งาม อุทยานแห่งชาติออบหลวง สวนสนบ่อแก้ว และทิวทัศน์ของถนนบนเทือกเขาสูง และดอยแม่เหาะ ก่อนถึงอ.แม่สะเรียง ในช่วงเดือนพฤศจิกายนจะเหลืองอร่ามไปด้วยดอกบัวตองหนาแน่นสองข้างทาง
ร้านอาหารในย่านอ.แม่ลาน้อย มีร้านอาหารวันแม่ และร้านธนโภชนา สาขา2 เป็นอาหารพื้นบ้าน อาหารไทย และครัวเฮินไต ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงามมาก และเปิดเป็นโฮมสเตย์ด้วย ร้านกาแฟต้องห้ามพลาดกาแฟของ ชุมชนห้วยห้อม ไม่เพียงได้ชิมกาแฟจากร้านที่มีทิวทัศน์งดงามเป็นพิเศษแล้ว ยังเป็นอราบิก้ามาตรฐานที่ส่งให้ กับร้านกาแฟระดับโลก
ร้านกาแฟ
กาแฟห้วยห้อม ผ้าทอขนแกะ โฮมสเตย์ โทร. 08 9854 0914
ที่พัก
เฮินไต รีสอร์ต แม่ลาน้อย โทร. 0 5368 9033
เฮือนคำคง เกสต์เฮาส์ โทร. 0 5368 2416
วิวนา รีสอร์ต โทร. 08 9700 9232
ฟลายอิ้งเบิร์ด รีสอร์ต โทร. 0 5368 9325
มินิ เกสต์ โทร. 08 6658 0809
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
คุณมะลิวัลย์ นักรบไพร โทร. 08 9555 3900
คุณอังคณา นักรบไพร โทร. 09 5448 2350
ทุกประเทศเขตแคว้นแดนพริบพรีเหมือนจะชี้ไปไม่พ้นแต่ต้นตาล
นิราศเมืองเพชร ของสุนทรภู่ที่แต่งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ไม่เพียงกล่าวถึงต้นตาลโตนดเมืองเพชร แต่ยังเล่าถึง “เตาตาล” แหล่งผลิตน้ำตาลปึกที่สำคัญเอาไว้ด้วย แต่เอกสารโบราณที่เก่าแก่ที่สุดที่กล่าวถึงตาลโตนดเมืองเพชรนั้นย้อนกลับไปถึงสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือกว่า 500 ปีล่วงมาแล้ว ครั้งเสด็จมาทรงเบ็ดที่ทุ่งโตนดหลวง ชะอำ
แม้ในทางพฤกษศาสตร์ นักวิชาการเชื่อว่า ตาลโตนด มิได้มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากแพร่เข้ามาจากอินเดีย แต่เวลาก็คงล่วงเลยมานานร่วมพันปี ตั้งแต่ครั้งชาวอินเดียเดินทางมาสู่นครรัฐสุวรรณภูมิ ตาลโตนดจึงปรากฏให้เห็นตามเมืองโบราณที่เป็นท่าเรือ หรือเชื่อมโยงถึงศาสนาพราหมณ์เสมอ เฉกเช่นเดียวกับเมืองเพชรบุรี หรือเมืองพริบพรี
องค์ความรู้เกี่ยวกับตาลโตนดที่เมืองเพชร โดยเฉพาะการทำตาล สืบทอดมานานหลายศตวรรษ ท้องทุ่งแห่งบ้านวังตาลทางตะวันตกของเมืองเพชร ก็น่าจะเป็นแหล่งผลิตตาลโตนดเก่าแก่แห่งหนึ่งของเพชรบุรีตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และปัจจุบันก็ยังทำน้ำตาลปึกในแบบโบราณ โดยไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ซึ่งการสืบทอดนี้ได้เกิดเป็นกิจกรรมชุมชนเยี่ยมชมเตาตาล เป็นการพาคนรุ่นใหม่ไปทำความรู้จักการทำตาลตั้งแต่ปีนขึ้นไปปาดงวงตาลเพื่อรองน้ำตาลลงกระบอกไม้ไผ่ที่ใส่เปลือกพะยอมเล็กน้อย ป้องกันไม่ให้น้ำตาลบูด จากนั้นนำน้ำตาลที่ได้มาเคี่ยวด้วยกระทะใบบัว นานหลายชั่วโมงจนงวดเข้า ๆ ในที่สุดก็ข้นเป็นน้ำตาล หยอดพิมพ์ หากในสมัยอยุธยาจะหยอดตาลลงในหม้อดินเผาทรงแบน อันเป็นที่มาของชื่อเรียกหมวกข้าราชการต้นรัตนโกสินทร์ว่า หมวกทรงหม้อตาล
ตาลเมืองเพชรหวานกลมกล่อม หอมมีเอกลักษณ์ เป็นวัตถุดิบชั้นดีที่นำมาทำขนมหวานตั้งแต่หม้อแกง บ้าบิ่น ทองหยิบทองหยอด จนถึงขนมอาลัว
นอกจากนี้ยังมีการทำขนมตาล ที่ใช้เนื้อลูกตาลสุกสีเหลืองเข้มมายี นึ่งเป็นขนมในกระทงใบตองเล็ก ๆ โรยมะพร้าวขูด หวานหอม ลูกตาลนี้ ถ้ายังอ่อนอยู่ก็จะอยู่ในทะลาย เนื้อใส หอมหวานนำมาทำลูกตาลเชื่อมนั่นเอง
โปรแกรมของชุมชนบ้านวังตาลใช้เวลาเพียงครึ่งวันในช่วงบ่าย ดังนั้น ถ้าเดินทางมาเที่ยวเมืองเพชร ออกจากกทม.แต่เช้า จึงสามารถแวะเที่ยวชมความงามของพระนครคีรี พระราชวังบ้านปืน วัดมหาธาตุวรวิหาร วัดใหญ่สุวรรณาราม แล้วชิมก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำแดงเจ้าอร่อยที่หน้าวัดใหญ่
เมืองเพชรบุรี ห่างจาก กทม.เพียง 120 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางเพียงชั่วโมงเศษ หรือเลือกเดินทางในบรรยากาศแบบคลาสสิกย้อนยุคด้วยรถไฟ ลงสถานีรถไฟเพชรบุรี ใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง และใช้บริการรถเช่าเหมาจากตัวเมืองเพชรบุรีไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็สะดวก
กิจกรรมชุมชนบ้านวังตาล เป็นแบบครึ่งวันและกำหนดไว้เป็นช่วงบ่าย เพราะชาวบ้านจะเก็บตาลในตอนเช้า อีกทั้งเมืองเพชรบุรี ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 120 ก.ม. เดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 30 นาที
แหล่งที่กินในเมืองเพชรบุรี บ้านลาดนั้น มีให้เลือกหลากหลาย โดดเด่นสุดน่าจะเป็นอาหารไทย โดยเฉพาะที่ร้านเปลญวน ตั้งอยู่ในซอยเทศบาลบ้านลาด 22 มีเมนูหมูคอนโด หลนปู หรือร้านกี่วา บ้านลาด ที่เมนูผัดพริก ผัดเผ็ด แกงหัวตาล
สำหรับตัวเมืองเพชร ไม่ควรพลาดร้านพวงเพชร มีเมนู ปลาดุกทะเลผัดฉ่า ผัดโป๊ยเซียน กุ้งอบวุนเส้น ย่านริมน้ำเพชร ก็ต้องที่บ้านริมน้ำ ถนนราชดำริ ชิมปลาเก๋าสามเซียน กุ้งนึ่งนมสด น้ำพริกชาววัง
อาหารง่าย ๆ จานเดียว พลาดไม่ได้ก็คือก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นน้ำแดงเพ็ญพริกเผ็ด หน้าวัดใหญ่ฯ นุชขนมจีนทอดมัน ตำรับคนเพชร หน้าวัดข่อย ของหวานก็ต้องลอดช่องน้ำตาลข้นนายกี๋ที่ถนนราชดำเนิน ร้านกาแฟที่รสชาติมาตรฐานใกล้ชุมชนที่สุด คือ กาแฟดอยช้างเพชรบุรี ริมถนนเพชรเกษมที่ ต.สมอพลือ เขต อ.บ้านลาด
ร้านอาหารและร้านกาแฟ
ร้านเพชรริมคลองอาหารป่า โทร. 08 5820 8237
ชาปู่ ชาย่า ร้านเค้ก กาแฟ บิงซู โทร. 08 5222 9977
ที่พัก
ต้นตาลรีสอร์ต โทร. 0 3249 0088
บ้านทุ่งทอง โทร. 06 2591 5575
ไหมทอง ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ต โทร. 09 5978 2914
โรงแรม ณ เพชร โทร. 08 1372 2483
บ้านแคนภู รีสอร์ต โทร. 09 8934 2871
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
คุณอารี มีลิ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านวังตาล โทร. 083 901 0646
บ้านโพน เป็นหมู่บ้านผู้ไทขนาดใหญ่ ที่อุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเขื่อนลำปาว เป็นต้นตำรับการทอผ้าไหมแพรวา ที่งดงามจนได้รับขนานนามว่า ราชินีแห่งผืนไหม เพราะไม่เพียงทออย่างประณีต หากยังประดับด้วยลายอันวิจิตรพิสดาร ซึ่งมีมาแต่โบราณร่วมร้อยลาย และยังมีการประยุกต์ต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด
ว่ากันว่า ผู้หญิงทุกคนที่บ้านโพนไม่เพียงทอผ้าเป็น แต่ยังทอได้งดงาม ถือเป็นประเพณี ที่ต้องสืบทอดความเป็นเอกในศิลปะที่สืบทอดต่อกันมานี้ไว้
ในปี พ.ศ.2520 ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินเยือน อ.คำม่วง ปรากฏว่าชาวผู้ไทใส่ชุดพื้นเมืองกันทุกคน ผู้หญิงจะห่มสไบแพรวาสีแดงชาด เมื่อสมเด็จฯ ทอดพระเนตรเห็นก็สนพระทัยในความงดงามและประณีตของผืนผ้า และยิ่งทวีคุณค่าเมื่อแพรวาผืนที่งามที่สุดที่ชาวบ้านทอสุดฝีมือเพื่อทูลฯ เกล้าถวายใช้ตัดฉลองพระองค์ จวบจนทุกวันนี้ ไหมแพรวา เป็นส่วนหนึ่งในโครงการศิลปาชีพ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
ผ้าแพรวา ก็คือสไบประกอบชุดประจำท้องถิ่น ย้อมด้วยชาด แพรก็คือ ผืนผ้า วาคือความยาว ทอประด้วยลายโบราณ ตามแต่จะสร้างสรรค์ และเนื่องจากกี่ที่ใช้ทอใช้ฟืมหน้าแคบเพียงศอก แพรวาจึงมีหน้าแคบตามแบบแผนโบราณ
ปัจจุบันบ้านโพนจัดตั้งสหกรณ์ศูนย์ศิลปาชีพทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน และมีสถานที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์อันเป็นศิลปะ บนผืนผ้า ทำให้มีการสร้างสรรค์ผลงานอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยการพลิกแพลงใช้สีธรรมชาติ และลวดลายที่ทวีความซับซ้อนขึ้น เกิดเป็นแพรวาสิบลาย เป็นการใช้ลวดลายต่าง ๆ เกี่ยวร้อยเป็นเรื่องราวบนผ้าผืนเดียวอย่างน่าทึ่ง ซึ่งต้องใช้เวลาทอนานแรมปี จึงสูงทั้งคุณค่า และราคา
ที่นี่ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้การทอผ้าไหมแพรวา เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ และศิลปะชั้นสูงนี้มิให้สูญหายไป โดยแม่ครูจะสอนตั้งแต่เลี้ยงไหม สาวไหม ฟอกกาวไหมให้มีสีขาว การย้อม มัดหมี่ การทอจนเป็นผืน
บ้านโพนยังมีเสน่ห์ของหมู่บ้านที่อุดมสมบูรณ์ฝั่งใต้ของเทือกเขาภูพาน เป็นแหล่งปลูกพุทรา นมสดแบบปลอดสารเคมี รสหวานกรอบที่ไม่เหมือนใคร เพราะเนื้อดินภูพานที่มีธาตุโปแตสเซียมสูง ทั้งยังให้ผลใหญ่น้อง ๆ แอปเปิลเลยทีเดียว อาหารการกินพื้นบ้าน เช่น อ่อมหวาย เห็ดนานาชนิดก็แซ่บหลาย
ผู้มาเยือนสามารถเลือกพักแบบโฮมสเตย์ของชุมชนบ้านโพนที่จัดการได้มาตรฐาน หรือเลือกพักรีสอร์ตเอกชน ที่มีอยู่หลายแห่งใน อ.คำม่วง ก็สะดวก
บ้านโพนนั้น ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ ห่างตัวเมืองกาฬสินธุ์ ประมาณ 80 กิโลเมตรเศษ การขับรถท่องเที่ยวจึงเป็นทางเลือกที่ดี เส้นทางจะผ่านป่าผลัดใบที่สมบูรณ์ริมเขื่อนลำปาว มีเห็ดพื้นบ้านละลานตาให้เลือกซื้อหาในฤดูฝนและพืชผักแปลก ๆ เก็บจากป่าในหน้าแล้ง และอย่าลืมเผื่อเวลาให้กับพิพิธภัณฑ์สิรินธร ซึ่งจัดแสดงฟอสซิล และเรื่องราวของไดโนเสาร์ที่ขุดค้นที่ภูกุ้มข้าวได้อย่างทันสมัย และน่าสนใจ
สำหรับชาวผู้ไทบ้านโพน แพรวาเป็นมากกว่าผ้าผืนหนึ่งที่ทออย่างตั้งใจด้วยไหมยอดและลายโบราณ หากเกิดจากการหลอมรวมมรดกแห่งภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ สู่การทอด้วยหัวใจ และถ่ายทอดลงไปในผืนผ้า ซึ่งจะผูกพันกับผู้เป็นเจ้าของ ไปตลอดชีวิต
จังหวัดกาฬสินธุ์ไม่มีสนามบิน จึงต้องมาลงยังสนามบินขอนแก่น ใช้เวลาเดินทางต่อมายังกาฬสินธุ์ – คำม่วง – บ้านโพน อีก 169 ก.ม. สภาพเส้นทางดี แม้จะค่อนข้างไกล แต่ก็ผ่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจ.กาฬสินธุ์ ทั้ง เขื่อนลำปาว หากมาในหน้าฝนจะมีแผงขายเห็ดป่าตลอดสองข้างทาง นอกจากนี้ยังผ่านพิพิธภัณฑ์สิรินธร ซึ่งจัดแสดงฟอสซิล และเรื่องราว ของไดโนเสาร์ที่ขุดค้นได้ที่ภูกุ้มข้าวได้อย่างทันสมัย และน่าสนใจ
แม้จะมาเยือนบ้านโพนได้ตลอดทั้งปี แต่หากมาตรงกับช่วงเทศกาลบุญบั้้งไฟ ราวกลางเดือนพฤษภาคม ก็จะมีบรรยากาศครึกครื้น คึกคักของขบวนแห่ ฟ้อนภูไท และรถบั้งไฟที่ร่วมขบวนจัดแต่งกันอย่างสวยงาม นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด
ร้านอาหารที่กินในอ.คำม่วง เป็นร้านอาหารง่าย ๆ แบบพื้นบ้าน พอให้ฝากท้องได้เท่านั้น จะมีร้านอาหาร ให้เลือกบ้างที่อ.สมเด็จ ห่างกันราว ๆ 30 ก.ม. มีร้านครัวคุณหน่อย อาหารไทยลาว ร้านปาริชาติอาหารตามสั่ง และปลาแม่น้ำโขง เจ๊นัง ตัวเมืองกาฬสินธุ์ มีตลาดโรงสี เป็นตลาดเย็น เปิดทุกวัน เป็นแหล่งที่กินที่เดินเล่น ที่น่าสนใจอีกแห่ง
ร้านอาหาร
ร้านอาหารซันชายน์บายไพลิน โทร. 08 7849 7765
ที่พัก
โรงแรมคุ้ม โทร. 0 4385 6338
ไดโนรีเทิร์น-รีสอร์ต โทร. 08 9819 3737, 08 4427 0177
ลีลาวดี รีสอร์ต โทร. 08 8330 0595
สู่ขวัญ บูทิคโฮม โทร. 09 5659 7273
เตชิต ฮิลล์ โทร. 09 4123 5559
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
กลุ่มทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน โทร. 08 7107 8019