ทันทีที่ลืมตาตื่น ภาพแรกของวันคือ ท้องทุ่งเขียวขจีลดหลั่นลงมาตามลาดเขา ห่มคลุมด้วยหมอกฝนที่กำลังเดินทางช้า ๆ อ้อยอิ่งอยู่รอบตัว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบข้าวลอยมากับลมหัวรุ่ง เหมือนเสียงกระซิบบอกถึงบนที่นอนว่า นี่มิไม่ใช่เพียงภาพ หากเป็นความจริงที่แวดล้อมเรามาทั้งคืน กลางหน้าฝนอย่างนี้ บางที เรือนไม้เล็ก ๆ ที่เรียกว่าระเบียงนา ณ บ้านริมทุ่งของโรงเรียนชาวนา แห่งท้องทุ่ง อ.ปัว อาจเป็น “ที่หลบภัย” ที่มีอยู่จริง
บ้านศิลาเพชร เป็นชุมชนชาวไทยลื้อเชิงดอยภูคา ปลูกเรือนไม้ยกพื้นริมทางสู่ดอยหลวง ถัดจากย่านชุมชนอันหนาแน่น เชื่อมด้วยถนนคอนกรีตแคบ ๆ เหมาะสำหรับขี่จักรยาน ก็คือท้องทุ่งกว้างริมลำน้ำย่างเชิงดอยที่เป็นแปลงนาลดหลั่นไปตามภูมิประเทศ เหนือขึ้นไปเห็นเงาไม้เรียงเป็นสัน คือแนวของป่าแพะ ป่าก่อ ที่ใครสักคนจากหมู่บ้านอาจเดินหายเข้าไปนานครึ่งค่อนวันกลับออกมาพร้อมกับกับข้าวมื้อเย็น
โรงเรียนชาวนา เป็นหมู่อาคารยกพื้นโปร่งโล่ง ๆ ไม่เพียงสำหรับเรียนรู้การปลูกข้าว หากยังเป็นที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับผู้มาเยือน มีเรือนศิลปะน้ำริน เรือนไม้จริงยกพื้น หลังคามุงแฝก และแป้นเกล็ด ได้แรงบันดาลใจจากฉางข้าวของล้านนาใช้เป็นห้องเรียนศิลปะกลางทุ่ง
ที่พักแบบบ้านล้านนาบนเรือนไม้เปิดโล่งกางมุ้งรับลมทุ่ง หรือเลือกพักที่บ้านเกวียนในบรรยากาศแบบเถียงนา ใกล้ชิดท้องทุ่งเข้ามาอีกนิด บ้านหิ่งห้อย ก็สมกับชื่อบ้านโดยเฉพาะในยามฝนโปรย หากมาเป็นกลุ่มใหญ่ก็เลือกบ้านระเบียงดาวที่มีระเบียงกว้างสำหรับดูดาวเหนือดงดอย หรือบ้านไทลื้อที่เป็นเรือนไม้สไตล์ไทยลื้อ
มีกิจกรรมมากมายตลอดทั้งวันที่ชุมชนศิลาเพชร หากสนใจการทอผ้าตีนจกแบบฉบับไทยลื้อ ก็มีกลุ่มทอผ้า หรือจะชมผลงานที่รวบรวมไว้ที่เรือนริพล เป็นเรือนไม้หลังงามกลางชุมชน ข้าวหลามหวานมันขึ้นชื่อ ว่ากันว่า ใครไม่จองก็อาจไม่ได้กิน ลงนาปลูกข้าวกัน หรือ กิจกรรม foraging เดินป่าเก็บหาของกินจากธรรมชาติ ตั้งแต่เห็ดไข่เหลือง เห็ดขอน เห็ดถอบ ผักหวาน แมงมัน ตามแต่จะหาได้ในแต่ละฤดู บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่พาคุณขึ้นไปถึงดงต้นก่อ อาหารเมืองแท้ๆ ที่รสชาติอาจทำให้คุณลืมของกินจากตลาด อาโวคาโดเก็บใหม่ๆ จากท้ายนาจิ้มน้ำผึ้ง อาบน้ำจากรางไม้ไผ่ในถังไม้กลางแสงดาวริมทุ่ง
โฮมสเตย์ ในความหมายของชาวชุมชนศิลาเพชรเป็นเหมือนบ้าน บ้านนั้นเป็นมากกว่าที่อาศัยนอนเพียงชั่วคืน
ล้อมกรอบ
กรุงเทพฯ – ท่าอากาศยานน่าน ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 20 นาที วันละ 5 เที่ยวบิน เป็นการเดินทาง ที่สะดวกที่สุดสำหรับการไปเยือนชุมชนศิลาเพชร ซึ่งห่างจากตัวเมืองน่าน 60 ก.ม.เศษ ใช้บริการรถเช่า หรือรถประจำทางตู้จากตัวเมืองน่าน มีรถบริการตลอดวัน
เส้นทางรอบชุมชนศิลาเพชร และเมืองปัวมีทิวทัศน์ที่งดงามของนาข้าวและทิวเขา มีที่เที่ยวใกล้เคียงให้แวะ ได้หลายแห่ง อาทิ จุดชมวิววัดภูเก็ต เป็นจุดถ่ายภาพมุมสูง สามารถมองเป็นเห็นทิวทัศน์ท้องทุ่งทิวเขาโอบ, วังศิลาแลง เป็นซอกผาหินที่ลำน้ำไหลผ่านยาวประมาณ 400 เมตร มีวังน้ำต่างๆ, วังน้ำปัว เป็นลำธาร และโขดหิน เป็นจุดเล่นน้ำนั่งพักกินอาหารกลางน้ำ นอกจากนี้ ยังสามารถขึ้นดอยภูคา ดูดาว ชมดอกชมพูภูคา และสัมผัสอากาศหนาวยะเยือก
ร้านอาหารใกล้ชุมชน คือฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ เป็นฟาร์มเห็ดและมีอาหารหลายอย่างทั้งพิซซ่า เห็ดหอมทอด ในละแวกต.ปัวมีร้านแนะนำหลายร้านย ได้แก่ ร้านไอเอ็มเอฟ ร้านเรณู ส่วน Little La Cuisine เป็นร้านกาแฟ และมีอาหารจำพวก สเต๊ก สปาเก็ตตี้ด้วย ส่วนร้านกาแฟอื่น ๆ มีกาแฟบ้านไทลื้อ ใกล้กับชุมชน และร้านกาแฟขุนดอยน่าน ใกล้ๆกันมีร้านเล็ก ๆ ชื่อ แฮงค์เอาท์คาเฟ่
ร้านอาหารและร้านกาแฟ
ร้านฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ โทร. 0 5479 2252
ลุงชัย ลาบเป็ดป่าตอง โทร. 08 6185 7101
กาแฟบ้านไทลื้อ โทร. 08 9264 6058
โรงแรม/รีสอร์ต
เผยเสน่ห์ ฝายแก้ง รีสอร์ต โทร. 08 5799 7607
No.45 Staycation โทร. 09 8886 3716
C View Home โทร. 08 6052 9800
ทางขึ้นรีสอร์ต นะลาวิว โทร. 09 7963 4188
ปัวสบายรีสอร์ต โทร. 08 9850 4301
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ชุมชนท่องเที่ยวบ้านศิลาเพชร 081 029 2007
บางทีคำว่า “สโลว์ไลฟ์” หรือ การใช้ชีวิตช้าๆ นั้น ไม่ใช่เรื่องของเวลา ไม่ใช่แม้แต่เรื่องของความช้าเร็ว
หมู่บ้านเล็ก ๆ ชื่อบ้านท่าขันทอง ริมฝั่งแม่น้ำโขงทางเหนือสุดของประเทศเป็นหมู่บ้านเกษตรกรรมบนที่ราบเล็ก ๆ ใกล้กับสบกก หรือตำแหน่งที่ลำน้ำกกไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง ชาวบ้านมีอาชีพทำนา ปลูกเสาวรสส่งโครงการหลวง และถั่วดาวอินคา ในหน้าแล้งเมื่อน้ำในแม่น้ำโขงลดต่ำลง ก็จะใช้ที่ดินริมฝั่งน้ำปลูกผักหรือพืชอายุสั้น 3 – 4 เดือน เก็บเกี่ยวก่อนน้ำจะหลากสูงมาอีกครั้งในหน้าฝน เรียกได้ว่ามีวิถีและการปรับตัวที่สอดคล้องกับฤดูกาลจนประสบความสำเร็จ จึงเป็นต้นแบบของหมู่บ้านภูมิทัศน์วัฒนธรรมระดับจังหวัดที่ใครต่อใครก็มาดูงาน และโดยส่วนใหญ่ก็ชื่นใจและชื่นชมในบรรยากาศกับน้ำจิตน้ำใจของผู้คน จึงอยากจะพักค้างคืนเพราะกิจกรรมต่าง ๆ นั้นเรียนรู้วันเดียวไม่พอ ใครมาพักก็ต้องใช้วิธีพาไปพักตามบ้านต่าง ๆ ที่ปลูกตลอดแนวริมแม่น้ำ รับรองกันเหมือนกับยามที่ญาติพี่น้องมาจากต่างจังหวัด
เวลาผ่านมานานกว่าสิบปี จากที่พาไปพักตามบ้านต่าง ๆ ก็มีการจัดการโฮมสเตย์กันอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ปรับปรุงบ้านเรือนที่พักแขกเหรื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่มีวิทยากรมาอบรมให้ แต่ดูเหมือนมีสิ่งหนึ่งที่ยังมีอยู่ และเป็นไปโดยไม่ต้องอบรมก็คือ การบอกความกันต่อ ๆ มาให้ช่วยดูแลเหมือนญาติที่มาจากต่างจังหวัด และสิ่งนี้เองที่เป็นมาตรฐานของมาตรฐาน
กิจกรรมการเรียนรู้สนุก ๆ ที่บ้านท่าขันทอง มีอยู่มากมาย ได้ชิมเสาวรสรสชาติจี๊ดจ๊าด หรือคุณค่าสูงจากถั่วดาวอินคาคั่วเกลือ นั่งรถอีแต๊กท่องชายโขง และลงนาปักดำ ถ้าได้มาในฤดูฝน หรือเปลี่ยนมาเป็นเกี่ยวข้าว ถ้ามาเยือนในช่วงต้นฤดูหนาว
นอกจากนี้ยังพาคุณล่องเรือตามรอยเมืองโบราณสุวรรณโคมคำ ต้นธารแห่งอาณาจักรล้านนา ชมเกาะแก่งกลางลำน้ำเลยไปจนถึงหาดหินที่บ้านสวนดอก หากเป็นหน้าแล้งที่น้ำเริ่มใส และลดระดับลงไปมากก็จะชาวบ้านออกเก็บไก หรือสาหร่ายน้ำจืดที่นำไปทอดเป็นของดีประจำท้องถิ่น
แม้จะมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมายในโปรแกรมแบบ 2 วัน 1 คืน แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือเรือนพักริมลำน้ำโขง ในยามพลบที่กล่อมให้หลับไปในสายลมแม่น้ำ ตื่นมาตอนหัวรุ่งสายหมอกยังอ้อยอิ่งอยู่เหนือดงต้นงิ้วชายน้ำ และแสงตะวันแรกที่ค่อยๆ สาดลงมาจับเป็นสีทอง ก่อนที่วันอันยาวนานจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
แม่น้ำทำให้เราตระหนักได้ถึงวิถีที่เราเป็น เพื่อที่ทำให้เราบอกกับตัวเองได้ว่า เราช้าไปหรือเร็วไป ก่อนที่จะปรับจังหวะก้าวให้พอดีกับความสุข
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 30 นาที วันละ 21 เที่ยวบิน เช้าจรดค่ำ และจากตัวเมืองเชียงรายไปยังอ.เชียงแสน บ้านท่าขันทอง ระยะทางประมาณ80 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง
ในละแวกใกล้เคียงชุมชนบ้านท่าขันทอง มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และจุดชมทิวทัศน์ ได้แก่ ทะเลสาบเชียงแสน หรือหนองบงคาย ที่มีทิวทัศน์ของบึงน้ำกว้าง เมืองโบราณเชียงแสน ประกอบด้วยวัดโบราณในยุคอาณาจักรล้านนารุ่งเรือง ชมทิวทัศน์ลำน้ำโขง และสามเหลี่ยมทองคำ
ตลอดแนวริมแม่น้ำโขงของอ.เชียงแสนยังเป็นย่านจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกจากจีน ได้แก่ ชา ชุดชงชา ของกิน ต่าง ๆ สำหรับร้านอาหาร เฮือนสบายดี อาหารไทย กาแฟเวียดนาม ไข่กระทะ ส่วนร้านกาแฟมีหลายร้าน ในย่านเชียงแสน ที่น่าสนใจ คือร้านยมองดูน้ำ ริมโขง เสิร์ฟกาแฟและเบเกอรี่
ร้านกาแฟ
บ้านกาแฟ Mi Vana Organic Forest Coffee
โรงแรม/รีสอร์ต
Navy Garden โทร. 09 5982 9646
บ้านแซวการ์เด้น แอนด์ รีสอร์ต โทร. 0 5316 0731
เชียงแสนโกลเด้นแลนด์รีสอร์ต 2 โทร. 08 1655 9221
สยามไทรแองเกิล โทร. 0 5365 1115
ภูเวียงรีสอร์ต เชียงแสน โทร. 08 1021 8762
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
เศรษฐศักดิ์ พรหมมา
โทร. 09 3636 5681
เวิ้งอ่าวที่เปรียบได้กับศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งอันดามัน ภูมิทัศน์งดงามของหมู่เกาะ เขาหินปูนใหญ่น้อย จากเขาตะปู เขาพิงกัน เกาะปันหยี ไปจนถึงเกาะห้อง เกาะพนักเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่สำหรับชาวชุมชนบ้านสามช่องเหนือ อ่าวพังงายังมีเรื่องราวซ่อนอยู่อีกมากมายนัก
ทะเลสงัดตอนในสุดทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะภูเก็ตที่เรียกว่าอ่าวพังงานั้น เชื่อมโยงไปสู่แถบของป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ และที่ลุ่มชายฝั่ง ซึ่งเป็นถิ่นฐานของชุมชนประมงที่เรียงรายไปตามความคดโค้งของเวิ้งอ่าวจากพังงาจรดกระบี่
ชาวประมงเรือเล็กเหล่านี้ พึ่งพาทรัพยากรจากอ่าวนี้มานานนับศตวรรษ ออกเรือหากุ้งปูปลา รู้จักร่องน้ำ กองหิน เรียนรู้เวลาที่เหมาะสมในการลงเบ็ด วางลอบ อ่านรหัสจากท้องฟ้าที่บอกได้ถึงพายุที่กำลังก่อตัว เรียกได้ว่า รู้จักท้องทะเลแห่งนี้แทบทุกตารางนิ้ว และเห็นความสัมพันธ์จากป่าชายเลนไปสู่ทะเลเปิด
หากมีโอกาสได้นั่งเรือเล็กไปกับชาวชุมชน เราจึงมีโอกาสได้เห็นมากกว่าเกาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าออกเรือ ก่อนตะวันขึ้น สัมผัสแสงแรกที่สาดลงจับเกาะแก่งกลางทะเลที่น้อยคนนักจะได้มีโอกาสเห็น
พายเรือคายัคอย่างช้า ๆ สำรวจไปตามเวิ้งถ้ำที่คุ้นเคยเพราะใช้หลบคลื่นลม จนพบถ้ำที่ระยิบระยับราวกับเพชรแห่งปะการัง รวมไปถึงเส้นทางไต่ไปสู่ปากปล่องซึ่งบนนั้น คือ ภาพกว้างไกลสุดสายตาของอ่าวพังงาในมุมมองแบบนกด้วยตาของมนุษย์
ทอดเวลาแห่งการทำความรู้จักกันด้วยการพักโฮมสเตย์กับชุมชน ที่หลับที่นอนสะอาด แยกเป็นสัดส่วน เราจะพบว่าอาหารการกินสดใหม่ให้รสชาติไม่เหมือนกับร้านอาหารร้านใด เพราะมันแกล้มด้วยเรื่องเล่าอันเร้าใจ และเปี่ยมด้วยชุดความรู้ที่เกิดจากความเข้าใจทะเล กระแสลม ฤดูกาล ไปจนถึงการขึ้นลงของดวงจันทร์
ชาวประมงเรือเล็กผู้เรียบง่าย ไม่เพียงบอกแก่เราว่า ต้องใช้ความรู้มากมายมหาศาลเพื่อให้อยู่รอดได้อย่างยั่งยืนในเวิ้งอ่าวแห่งนี้ แต่ยังมอบกิจกรรมท่องเที่ยวนอกโปรแกรมทัวร์ที่ทำให้เข้าใจว่าอ่าวพังงาที่มีชีวิตนั้นเป็นอย่างไร
สนามบินภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการเดินทางในย่านภูเก็ต พังงา โดยมีเที่ยวบินถึง 55 เที่ยวบินต่อวัน ใช้เวลาเดินทาง1ชั่วโมง25นาที จากภูเก็ตมายังบ้านสามช่องเหนือ ใช้เวลาเดินทางอีกราวครึ่งชั่วโมง โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 4
แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง คืออุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ซึ่งที่ทำการอยู่ติดกับชุมชน ถ้าชื่นชอบกิจกรรม ผจญภัยในถ้ำ ให้เดินทางต่ออีกราว 20 นาทีก็จะถึงถ้ำพุงช้าง มีกิจกรรมพายเรือสำรวจถ้ำน้ำ ถัดขึ้นไป ในเขตอ.อ่าวลึก จ.กระบี่ 59 ก.ม.จากชุมชน มีอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ลำธารน้ำใสไหลผ่านโถงถ้ำ ที่งดงาม
ร้านอาหารใกล้เคียงกับชุมชน มีร้านสามช่องซีฟู๊ด ที่มีความสดอร่อย ร้านรวมรส เป็นอาหารทะเล เมนูกับข้าวพื้นบ้านรสจัดจ้าน ถ้าอยากชิมส้มตำ ยำต่าง ๆ ผัดเผ็ดต่าง ๆ ก็มีร้านโกเปี๊ยก ห่างจากชุมชนประมาณ 10 นาที ส่วนร้านกาแฟ มีร้านTree Coups Phang nga Coffee จิบกาแฟบนต้นไม้ ชมอ่าวพังงา
ร้านอาหารและร้านกาแฟ
เรือนแพสามช่องซีฟู้ด โทร. 0 7644 4265
ร้านอาหารขุมทรัพย์ซีฟู้ด โทร. 08 9868 8803
กาแฟต้นไม้ โทร. 08 0921 5081
โรงแรม/รีสอร์ต
บ้านสวนรีสอร์ต โทร. 08 0969 7437
ผาตะวัน รีสอร์ต โทร. 08 5571 4358
ณัฐกาญน์รีสอร์ต โทร. 08 1893 3128
เสม็ดนางชี บูทีค โทร. 06 3229 8855
Baan Siripornchai โทร. 076-42 2240
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านสามช่องเหนือ โทร.086 741 7949
ยอดเขาหลวงนครศรีธรรมราชชะเงื้อมตระหง่านทางตะวันตกปกคลุมด้วยเมฆหมอกไอชื้นที่ถูกลมหอบมาจากทะเลชั่วนาตาปี คือสิ่งที่ชาวบ้านเหนือ หรือบ้านพรหมโลก คุ้นเคยมานานกว่า 2 ศตวรรษหากแต่สำหรับผู้มาเยือนคงตื่นตาตื่นใจกับทิวทัศน์ที่งดงามจนแทบหยุดหายใจที่เห็นจากหน้าเรือนพัก
เทือกเขาหลวงเปรียบได้กับขุนน้ำแห่งคาบสมุทร เชื่อมโยงชุมชนเก่าแก่แห่งนี้ไว้ด้วยสายธารใสที่ไม่เคยแห้งเหือด โจนลงจากผาสูงชันเสียงกึกก้องราวกับเป็นพรหมแห่งโลก หรือต้นกำเนิดแห่งสรรพสิ่ง ป่าดิบชื้นผืนมหึมาที่เบียดเสียดเรือนยอดจนแทบไม่มีที่ว่าง
บ้านพรหมโลก เป็นชุมชนเก่าแก่เชิงเขาหลวงที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งพืชผักผลไม้หมากพลู สิ่งเหล่านี้สะท้อนออกมาในรูปของกินอันหลากหลายละลานตา รสชาติที่ผสมผสานระหว่างเก่ากับใหม่ คุณสามารถสัมผัสได้ที่ตลาดนอกท่า หลังจากตื่นขึ้นมาใส่บาตรที่หน้าบ้านแล้วปั่นจักรยานไปเพียงชั่วเหงื่อไม่ทันออก ที่นี่เป็นตลาดของกินคึกคักทั้งบรรดาพืชผักพื้นบ้านนานาชนิด สะตอ ลูกประ ระกำ ไปจนถึงขนม กับข้าว ได้แก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ราดน้ำตาลข้น ข้าวเหนียวหน้าต่างๆ ขนมจีน ข้าวหมกไก่ ขนมปะดาขนมทอดไส้มันเทศกับกล้วย ขนมชั้น ลูกชุบ ขนมโคที่นวดจากแป้งข้าวเหนียว
นอกจากของกินสารพัดแล้ว ตลอด 2 วัน 1 คืน ที่หมู่บ้านเชิงเขาหลวงแห่งนี้ มีกิจกรรมสารพัดให้ทำเล่นไม่เว้นว่าง แต่เชื่อเถิดว่าสิ่งแรกที่ทุกคนอดใจไม่ไหวก็คือการลงเล่นน้ำใส ของธารน้ำตกพรหมโลก หรือจะเดินลัดเลาะขึ้นไปยังวังน้ำและหนานต่างๆ ที่อยู่สูงขึ้นไป ผ่านร่มใบของเฟินยักษ์มหาสะดำจากดึกดำบรรพ์
อาหารค่ำเป็นของกินพื้นบ้านปักษ์ใต้ที่ถึงเครื่องสารพัด ยังมีน้ำพริกลูกประ เม็ดรีๆ ที่ไม่เพียงนำมาใส่น้ำพริก ยังคั่ว หรืออบฉาบเค็ม กลายเป็นของฝากจากบ้านพรหมโลกที่อร่อยไม่แพ้อัลมอนด์ ตกค่ำมาช่วยกันเขียนเทียนลงบนผืนผ้าเพื่อทำผ้าบาติกหลากสี
บ้านพรหมโลก มีทิวทัศน์งดงาม อากาศดีด้วยลมจากเทือกเขา แม้คุณอาจจะอยากนั่งๆ นอนๆ ฟังเสียงน้ำตกอย่างเกียจคร้านก็ยากจะทำได้ เพราะที่นี่อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมจากบรรดาคุณลุงคุณป้า ที่จะพาไปไหนต่อไหน เล่นน้ำในลำธาร ยังไม่พอ ไปไหว้พระเข้าถ้ำที่วัดเขาขุนพนมที่เชื่อกันว่าเป็นถ้ำพระเจ้าตาก และถ้าหากมาในช่วงหน้าผลไม้ราวเดือนมิถุนายนไปจนถึงสิงหาคม ก็จะละลานตาไปด้วยทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง โดยปลูกไม้ผลแซมไปกับไม้ป่าดั้งเดิม ไม่มีการตัดโค่นไม้ใหญ่ และไม่ใช้สารเคมีการเกษตร สวนสมรมยังเป็นแหล่งเศรษฐกิจในครัวเรือน ตั้งแต่ผลไม้ไปจนถึงพืชผักพื้นบ้าน
บ้านพรหมโลก ทำให้เราเข้าใจความหมายของโฮมสเตย์ แท้ที่จริงนั้น อาจไม่ใช่เรื่องของที่พักชั่วคืน หรือสักคืน หากแต่เป็นปากประตูที่นำไปสู่ความเข้าใจกันทั้งที่เป็นมา และกำลังเป็นไป
เดินทางโดยรถยนต์ ระยะทาง 790 ก.ม. ใช้เวลาร่วมๆ 10 ชั่วโมง การเดินทางโดยเครื่องบิน ก็เพิ่มความสะดวกสบายใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาที หรือใช้บริการรถไฟตู้นอน ออกจากกรุงเทพฯ ค่ำ หลับได้สบายจนไปถึงสถานีนครศรีธรรมราชสาย ๆ
จากตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปบ้านพรหมโลก ระยะทาง 24 ก.ม. ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที เท่านั้น แวะกราบพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชเสียก่อนเดินทางต่อ บนเส้นทางสู่ในอ.พรหมคีรี มีแหล่งท่องเที่ยวประกอบด้วยน้ำตกต่าง ๆ แต่น้ำตกพรหมโลกโดดเด่นที่สุด นอกจากนี้ก็มีถ้ำแก้วสุรกานต์ และบ้านคีรีวงที่ห่างกัน 33 ก.ม
ร้านอาหารใกล้ชุมชนที่น่าสนใจ มีทั้งขนมจีนบ้านสวน อยู่บริเวณทางเข้าวัดเขาปูน ห่าวจากชุมชนไม่เกิน 5 นาที นอกจากนี้ก็มีรานสโลว์ไลฟ์ พรหมคีรี ที่มีอาหารหลากหลายตั้งแต่พิซซ่าจนถึงส้มตำ กาแฟ ชาเขียว ส่วนร้านกาแฟอีกร้านก็คือ Latte Art Coffee&Steak ร้านเป็นตึกแถวบนเส้นทางสู่ตัวอำเภอ
ร้านอาหาร
ร้านน้องแคท โทร. 08 3022 7841
โรงแรม/รีสอร์ต
สีดิน See-Din Studio & Farmstay โทร. 08 1306 7007
พรหมโลกรีสอร์ต โทร. 0 7539 6314
เจ.พี.การ์เด้น แอนด์ รีสอร์ต โทร. 09 1050 6567
พลอินทร์รีสอร์ต โทร. 08 6684 5453
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ชมรมท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านพรหมโลก 081 081 9150
ประสบการณ์ใหม่ และเรื่องราวไม่เหมือนใครมักซ่อนตัวอยู่ในชุมชนเล็ก ๆ เสมอ ดังเช่นหมู่บ้านในวงล้อมของภูเขาแห่งหนึ่ง ใครจะคิดว่าหมู่บ้านที่ห่างไกลเสียจนการได้กินก๋วยเตี๋ยวเป็นเรื่องลำบากจนต้องหมักแป้งข้าวเจ้าทำเป็นแผ่นไว้กินเองเกิดเป็นอาหารตำรับท้องถิ่นยอดนิยม มีผู้คนหลั่งไหลกันเข้าไปชิม
นี่คือเรื่องราวของบ้านนาต้นจั่น หมู่บ้านเล็ก ๆ ในอ้อมกอดของภูดอยที่มี “ข้าวเปิ๊บ” ของคุณยายใจดี ชื่อยายเครื่องเป็นสัญลักษณ์ เปิ๊บแปลว่า พับแผ่นแป้งข้าวเจ้าหมักที่ละเลงสดๆ เป็นแผ่นโตๆ คล้ายข้าวเกรียบปากหม้อ ห่อไส้ที่เป็นผักผัดแล้วพับไปพับมา เสิร์ฟในชามซุปที่มีไข่ หมูแดง เหมือนก๋วยเตี๋ยวนั่นเอง เป็นของกินที่ไม่มีที่อื่น ขายมาตั้งแต่คุณยายยังสาวๆ
บ้านนาต้นจั่น เป็นที่ราบเล็ก ๆ เป็นที่นา และมีต้นจั่น หรือกระพี้จั่น ไม้ป่าในวงศ์ถั่วขึ้นตามหัวไร่ปลายนาจึงกลายมาเป็นชื่อบ้านนาต้นจั่น
ใครต่อใครเข้ามาเห็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ ก็ชอบใจจนไม่อยากรีบกลับ ยิ่งมีจักรยานมาด้วย ก็ได้ขี่ชมบรรยากาศทุ่งนาที่น่าประทับใจ ชุมชนบ้านนาต้นจั่น จึงได้ร่วมกันจัดตั้งเป็นกิจกรรมท่องเที่ยว และโฮมสเตย์ขึ้นในชุมชน วางโปรแกรมท่องเที่ยวน่าสนใจเอาไว้มากมาย ส่วนใครอยากจะเปิดบ้านเป็นโฮมสเตย์ให้แขกมาพักก็มาลงทะเบียนไว้และต้องปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐานซึ่งก็อิงอยู่บนพื้นฐานที่เรียบง่าย แต่ต้องสะอาด เป็นสัดส่วน ปรากฏว่า เกิดเป็นที่พักแบบโฮมสเตย์หลากหลาย มีการสร้างสรรค์กันสารพัดรูปแบบทั้งบ้านบนต้นไม้ บ้านชายทุ่ง เรือนไม้เปิดโล่งดูเก๋ไก๋ รวมแล้ว 20 บาท แต่การเข้าพัก ก็ขึ้นอยู่กับการจัดสรรโดยชุมชนตามคิว เจาะจงเลือกไม่ได้ แต่นอนหลังไหนก็นอนสบายไม่ต่างกัน
นอกจากข้าวเปิ๊บเจ้าเก่ายายเครื่อง และข้าวเปิ๊บเสิร์ฟในชามโต เรียกข้าวเปิ๊บล้มยักษ์ บ้านนาต้นจั่นยังมีผ้าหมักโคลน ซึ่งก็คือผ้าทอลายขิตแบบโบราณในแถบถิ่นนี้ ย้อมด้วยสีจากธรรมชาติแล้วนำไปหมักโคลนได้ เป็นผ้าสีเฉพาะตัว เนื้อผ้านุ่มนวล มีทั้งผ้าคุลมไหล่ ผ้าสารพัดประโยชน์ ซิ่น ไปจนถึงเสื้อ ตื่นแต่เช้า จิบกาแฟชมทะเลหมอกที่เขาห้วยต้นไฮ สายหน่อยไปเก็บลางสาด ผลไม้พื้นบ้านที่นับวันจะมีคนรู้จักกันน้อย
คุณอาจขี่จักรยานชมทิวทัศน์ทุ่งนารอบหมู่บ้าน กลับมาคลายความเมื่อยล้าด้วยสปาบ้านทุ่ง ชิมกาแฟที่ร้านเคาะระฆัง เพราะต้องเคาะระฆังเรียกคนชง หรือเพียงขอแค่เอนหลังบนเปลไม้ไผ่กับหนังสือเล่มโปรด เพียงเท่านี้ ก็นับว่าคือความสุข
การเดินทางมายังบ้านนาต้นจั่น ทำได้อย่างสะดวกสบายในปัจจุบัน ห่างจากตัวอำเภอศรีสัชนาลัยเพียง 40 นาที เป็นถนนลาดยาง มีทางโค้งขึ้นเขาเล็กน้อย ถ้าเป็นเมื่อสี่ห้าสิบปีก่อน ต้องใช้เวลากันเป็นวัน และก็ด้วยความห่างไกลและยากลำบากเช่นนี้เองที่ทำให้บ้านนาต้นจั่น เป็นในแบบที่เป็นในทุกวันนี้
การเดินทางจากกรุงเทพฯ – สุโขทัย – ศรีสัชนาลัย เมื่อมายังบ้านนาต้นจั่นระยะทางกว่า 500 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางราว 6 ชั่วโมงเศษ การเดินทางโดยเครื่องบินจึงเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุด ใช้เวลาบินเพียง 1 ชั่วโมงเศษ สนามบินสุโขทัยตั้งอยู่ที่ อ.สวรรคโลก มีเพียงเที่ยวบินของบางกอกแอร์เวย์วันละ 3 เที่ยวบิน สายการบินอื่นใช้สนามบินพิษณุโลก โดยมีรถรับส่งถึงตัวเมืองสุโขทัย ใช้เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง จากนั้นจึงเดินทางต่อไปยังชุมชนบ้านนาต้นจั่น ซึ่งห่างจากตัวอำเภอศรีสัชนาลัย 33 ก.ม. เส้นทางเป็น ถนนลาดยาง มีทางโค้งขึ้นเขาเล็กน้อย
แหล่งท่องเที่ยวในย่านนี้นอกจากบ้านนาต้นจั่นแล้ว ก็มีอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ริมแม่น้ำยม ซึ่งมีวัด สำคัญก็คือวัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ นอกจากนี้ก็มีอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัย จุดเด่น คือถ้ำต่าง ๆ น้ำตกตาดเดือนตาดดาว และจุดกางเต็นท์
ร้านอาหารนอกจากร้านข้าวเปิ๊บอร่อยที่บ้านนาต้นจั่นแล้ว ร้านส่วนใหญ่จะกระจายอยู่รอบตัวอ.ศรีสัชนาลัย โดยเฉพาะย่านต.หาดเสี้ยวที่เป็นเส้นทางไปยังอุทยานประวัติศาสตร์ ได้แก่ ร้านป้าทรง ร้านเก่าแก่ขึ้นชื่อ จำหน่าย อาหารไทย ร้านก๋วยเตี๋ยวไทยสังคโลก ตั้งอยู่ที่ต.หาดเสี้ยว ครัวต้นอ้อย ก็อยู่ไม่ไกลจาก อุทยานประวัติศาสตร์ มีอาหารไทยรสจัด ยำต่าง ๆ
สำหรับร้านกาแฟนอกจาก คอฟฟี่นาต้นจั่น ก็มี บ้านกาแฟศรีสัช ที่ต.หาดเสี้ยว และหมื่นลี้กาแฟสดตั้งอยู่ ที่ชุมชนบ้านภูนก ต.บ้านตึก
ร้านอาหาร
ข้าวเปิ๊บยายเครื่อง โทร. 08 7036 0060
ร้านแวะกำเน้อ แจ่วฮ้อนนาต้นจั่น โทร. 087 199 0282
โรงแรม/รีสอร์ต
Mukda Resort โทร. 09 1569 5446
Chanalai Resort and Hotel โทร. 0 5567 2555
โรงแรมศรีสัชนาลัย&รีสอร์ต โทร. 0 5567 2666
ศรีสัชนาลัยเฮอริเทจ โทร. 0 5561 5423
Navy Sisatchanalai โทร. 09 1028 6516
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
กลุ่มโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น 08 8495 7738, 091 559 8482